รับรีโนเวทอาคารพาณิชย์

รับรีโนเวทอาคารพาณิชย์ | อาคารพาณิชย์เก่า ไม่ได้แปลว่าไร้คุณค่า (อัพเดทบทความใหม่ ปี2025)

รับรีโนเวทอาคารพาณิชย์ รีโนเวทใหม่เปลี่ยนพื้นที่ธรรมดาให้กลายเป็นธุรกิจที่มีมูลค่า
ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า โฮมออฟฟิศ คาเฟ่ หรือห้องเช่า เพราะเราคือทีมมืออาชีพที่รับรีโนเวทอาคารพาณิชย์ ครบวงจร ดีไซน์สวย คำนึงถึงการใช้สอย และตอบโจทย์การลงทุนในยุคใหม่ในปี 2025

.

งานรีโนเวทนั้นไม่ไช่ว่าจะทำกันอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าได้ ช่างต้องมีประสบการณ์ เนื่องจากเกี่ยวเนื่องกับโครงสร้างเดิมทั้งสิ้น การทุบรื้อทำลาย ต้องทำโดยผู้มีประสบการณ์เท่านั้น ไม่อย่างนั้นโครงสร้างจะถูกกระทบกระเทือนได้ การขึ้นรูปผนังก็ดีหรืออื่นๆ ไม่ไช่เพียงก่อผนังก็เสร็จ จะต้องมีความเข้าใจในงานผนังด้วยว่าผิวสีเดิมกับสีใหม่จะถูกประสานรอยต่อให้แข็งแรงไม่แตกร่อนได้อย่างไร ผนังก่อจำเป็นต้องมีทับหลังหรือเสาเอ็นหรือไม่  อันนี้ประสบการณ์ที่ดีจะช่วยให้งานออกมาแข็งแรง

จากภาพ : งานรีโนเวทคือการรื้อของเก่า หากทำผิดหลักหรือไม่มีความเข้าใจอย่างถูกต้อง จะมีผลต่อโครงสร้างได้

การทำงานที่ดีนอกจากเข้าใจหลักของการทำงานแล้ว การ Safety ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน

งานรีโนเวท จะเกี่ยวข้องกับการรื้อถอนของเดิม และการติดตั้งใหม่ อันนี้ทางทีมออกแบบก็ต้องเข้าใจโครงสร้างด้วยถึงจะออกแบบมาได้อย่างถูกต้องไม่ต้องมาปรับแก้ภายหลัง การจะเอาเสาออกซักต้น จะต้องไม่ไช่เสาโครงสร้าง ต้องเป็นเสาก่อโชว์หรือเสาทดแทนเท่านั้น การทำงานโดยช่างไม่มีประสบการณ์จะทำให้อาคารของท่านไม่แข็งแรงและมีผลต่ออนาคต รีโนเวทส่วนต่อเติมให้สูงขึ้นจะต้องเข้าใจฐานรากเดิมซะก่อน ว่านับน้ำหนักได้หรือไม่ ควรเพิ่มเสาตรงไหนได้บ้าง นี่คือสิ่งจำเป็นที่บริษัทรับเหมาควรจะมีความรู้เป็นอย่างดี

โดยสรุปช่างที่จะทำงานรีโนเวทได้ ต้องมีความรู้อย่างเพียงพอ ถึงจะทำงานท่านออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และถ้าหากท่านสนใจงานด้านรีโนเวท ท่านไม่ควรมองข้ามบริษัทเรา ลองโทรเข้ามาปรึกษากันก่อนได้ครับ

.

รับรีโนเวทอาคารพาณิชย์ | ก่อนรีโนเวทอาคารพาณิชย์ต้องพิจารณาปัจจัยอะไรบ้าง❓

ก่อนรีโนเวทอาคารพาณิชย์ ควรพิจารณาหลายปัจจัยเพื่อให้การลงทุนคุ้มค่า ตอบโจทย์การใช้งาน และไม่เจอปัญหาระหว่างทาง โดยเฉพาะถ้าคุณต้องการรีโนเวทเพื่อต่อยอดเป็นธุรกิจ นี่คือปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาครับ

1. วัตถุประสงค์การใช้งานหลังรีโนเวท คุณต้องการรีโนเวทเพื่ออะไร? เช่น เปิดร้านค้า, โฮมออฟฟิศ, ห้องเช่า, คาเฟ่, คลินิก ฯลฯ หรือมีวัตถุประสงค์ที่มีผลต่อดีไซน์ ระบบไฟฟ้า-ประปา และการจัดโซนพื้นที่ไหม? รวมถึงถ้าวางแผนจะให้เช่า ต้องดูความยืดหยุ่นและความเป็นกลางของดีไซน์ให้ดี

2. โครงสร้างเดิมของอาคาร ควรตรวจสอบความแข็งแรงของโครงสร้างหลัก เช่น เสา คาน พื้น ฐานราก แต่ถ้าอาคารเก่ามาก อาจต้องเสริมโครงสร้างก่อนตกแต่ง รวมถึงต้องมีวิศวกรหรือทีมงานผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบให้ละเอียด

3. ระบบไฟฟ้า ประปา และความปลอดภัย ระบบไฟฟ้าในรุ่นเก่าอาจไม่รองรับการใช้งานใหม่ เช่น อุปกรณ์ในร้านอาหาร เครื่องปรับอากาศจำนวนมาก และระบบประปา การระบายน้ำ และการกันซึมควรตรวจสอบและปรับปรุง รวมถึงควรพิจารณาระบบป้องกันอัคคีภัย และทางหนีไฟ หากจะใช้อาคารในเชิงพาณิชย์

4. งบประมาณ และความคุ้มค่าการลงทุน ควรมีการประเมินงบอย่างชัดเจน ทั้งค่าก่อสร้าง ออกแบบ และค่าเผื่อและพิจารณาความคุ้มค่าในแง่ธุรกิจ เช่น จะคืนทุนได้ภายในกี่ปี ค่าเช่าตลาดในพื้นที่เป็นอย่างไร รวมถึงคุณอย่าลืมงบตกแต่งภายในที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ

5. กฎหมายควบคุมอาคาร และข้อจำกัดพื้นที่ คุณควรตรวจสอบว่าอาคารอยู่ในเขตควบคุมประเภทใด เช่น เขตพาณิชย์, เขตที่อยู่อาศัย และตรวจสอบระยะร่น, ความสูงอาคาร, การขออนุญาตต่อเติม หรือดัดแปลง รวมถึงถ้ามีอาคารพ่วง เช่น ห้องเช่าหลายยูนิต อาจเข้าข่ายอาคารควบคุมพิเศษ ต้องขออนุญาตชัดเจน

6. สไตล์การตกแต่ง และภาพลักษณ์แบรนด์ คุณต้องเลือกดีไซน์ที่สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น เรียบหรู, โมเดิร์น, วินเทจ, ลอฟต์ ให้มีความกลมกลืนของภายนอกกับภายในช่วยให้ดูน่าเชื่อถือ รวมถึงถ้าต้องการสร้างภาพจำของแบรนด์ ต้องให้ทีมออกแบบช่วยวางคอนเซ็ปต์

.

รีโนเวทอาคารพาณิชย์ยากกว่ารีโนเวทบ้าน จริง!! แต่จริงอย่างไร❓ ทำไมจึงต้องใส่ใจอย่างละเอียดกว่างานบ้าน👇

1. กฎหมายควบคุม และข้อกำหนดโครงสร้างที่เข้มงวดกว่า

อาคารพาณิชย์มักอยู่ในพื้นที่เมือง เขตเศรษฐกิจ หรือแนวถนนหลัก ทำให้ต้องปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมอาคารอย่างเข้มงวด ทั้งเรื่อง ระยะร่น, ความสูงอาคาร, ขนาดช่องเปิด, ระบบดับเพลิง, พื้นที่จอดรถ และในบางกรณีอาจต้องยื่นขออนุญาตกับเขตหรือเทศบาลก่อนเริ่มงาน แม้แค่ทุบผนังหนึ่งด้านก็อาจเข้าข่ายดัดแปลงอาคาร ซึ่งบ้านพักอาศัยมักไม่มีข้อจำกัดขนาดนี้

ในกรณีอาคารที่ต้องรีโนเวทเพื่อเปิดร้านค้า ร้านอาหาร คลินิก หรือทำเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ จะมีการตรวจสอบระบบความปลอดภัยโดยเฉพาะ เช่น ระบบหนีไฟ, ทางลาดคนพิการ, ระบบระบายอากาศ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ต้องผ่านมาตรฐานจากวิศวกรและบางครั้งต้องตรวจรับจากเจ้าหน้าที่รัฐก่อนเปิดใช้งานจริง

.

2. ฟังก์ชันการใช้งานซับซ้อน ต้องคำนึงถึงลูกค้า-พนักงาน-การขาย

การรีโนเวทบ้านมักเน้นแค่ ความสะดวกของผู้อยู่อาศัย (พื้นที่ส่วนตัว, ห้องนั่งเล่น, ห้องครัว) แต่การรีโนเวทอาคารพาณิชย์ต้องคิดให้ลึกกว่า เพราะมีผู้ใช้งานหลากหลาย เช่น ลูกค้า, พนักงาน, เจ้าของกิจการ และต้องวางแผนให้แต่ละโซนตอบโจทย์ได้จริง เช่น

✅ พื้นที่ต้อนรับต้องสื่อภาพลักษณ์และดูน่าเชื่อถือ

✅ โซนขายของหรือให้บริการต้องมี Flow การใช้งานที่ดี

✅ ส่วนบริการหลังบ้าน พื้นที่เก็บของ พื้นที่พักพนักงาน ก็ต้องออกแบบให้เหมาะสม

ไม่เพียงแค่ “สวย” เท่านั้น แต่ยังต้องออกแบบให้ ขายของได้ง่าย ใช้งานลื่นไหล รองรับคนจำนวนมาก ซึ่งใช้ทักษะมากกว่าการจัดวางพื้นที่ในบ้านทั่วไปอย่างชัดเจน

.

3. ระบบไฟฟ้า-ประปา ต้องรองรับการใช้งานหนัก และการซ่อมบำรุงในอนาคต

ในบ้านพักอาศัย ระบบไฟฟ้าและประปาส่วนใหญ่รองรับเพียงเครื่องใช้ไฟฟ้าพื้นฐาน และมีการใช้งานไม่หนาแน่น แต่ในอาคารพาณิชย์ มักต้องติดตั้งระบบที่รองรับไฟฟ้ากำลังสูง อุปกรณ์หนัก เช่น เครื่องครัวเชิงพาณิชย์, เครื่องปรับอากาศหลายตัว, ปั๊มน้ำแรงดันสูง รวมถึงจุดจ่ายไฟจำนวนมากตามแนวผนังหรือเคาน์เตอร์ต่างๆ

นอกจากนี้ยังต้อง คำนึงถึงการเดินสายและซ่อมบำรุงในอนาคต เช่น การซ่อนระบบที่เข้าถึงง่าย, การแยกตู้ไฟของแต่ละโซน, ท่อประปาที่ไม่ตัดผ่านพื้นที่สำคัญ ฯลฯ ซึ่งถ้าออกแบบผิดตั้งแต่แรกจะสร้างภาระในอนาคต เช่น ต้องรื้อฝ้าหรือผนังเพื่อซ่อมระบบ

.

4. ความคุ้มค่าในการลงทุน และ ROI ต้องคิดให้ลึกกว่าความสวยงาม

การรีโนเวทบ้านมักเน้น “อยู่สบาย” และ “ตอบโจทย์ความชอบของเจ้าของ” เป็นหลัก แต่การรีโนเวทอาคารพาณิชย์ต้องคิดในมุมของ “การลงทุน” และ “ผลตอบแทนระยะยาว” ไม่ว่าจะเป็น… จะปล่อยเช่าได้เท่าไร? คืนทุนภายในกี่ปี? ,ดีไซน์แบบไหนที่เพิ่มมูลค่าอาคารได้จริง? หรือจะวัสดุที่เลือกใช้งานได้ทนทานและคุ้มค่าหรือไม่?

เพราะทุกตารางเมตรคือ “พื้นที่สร้างรายได้” การออกแบบผิดพลาดหรือเลือกวัสดุไม่เหมาะสม อาจกลายเป็นต้นทุนที่ทำให้ ROI ต่ำ หรือถึงขั้นเช่าไม่ออกเลยในอนาคต

.

5. ภาพลักษณ์และ Branding มีผลต่อยอดขายทันที

อีกสิ่งที่บ้านไม่มีแต่ “อาคารพาณิชย์ต้องมี” คือ “ภาพลักษณ์ทางธุรกิจ” เพราะลูกค้าตัดสินใจได้ในเสี้ยววินาทีว่า “ร้านนี้น่าเข้าไหม?” จากแค่การมองจากภายนอก การตกแต่งจึงไม่ใช่แค่เรื่องความชอบ แต่คือ กลยุทธ์ดึงดูดคนเดินเข้า และเพิ่มยอดขาย

ตัวอย่างเช่น ร้านคาเฟ่ต้องมีมุมถ่ายรูป, แสงธรรมชาติสวย, ทางเข้าชัด หรือคลินิกต้องดูสะอาด ทันสมัย และสร้างความเชื่อมั่นได้ หรือจะเป็นร้านขายของฝากหรือโชว์รูมต้องสื่อถึงความใส่ใจในรายละเอียด

ดีไซน์ภายใน-ภายนอก ต้องสอดคล้องกับ Brand Identity อย่างมืออาชีพ และนี่คือสิ่งที่สถาปนิก-อินทีเรียร์เชิงพาณิชย์เท่านั้นที่เข้าใจลึก

.

รับรีโนเวทอาคารพาณิชย์ และผู้รับเหมาที่ดีจะมีการวางแผนการทำงานอย่างไรให้งานออกมามีคุณภาพ..

การรีโนเวทอาคารพาณิชย์เป็นงานที่ซับซ้อนและต้องการความแม่นยำในทุกขั้นตอน การเลือก “ผู้รับเหมาที่ดี” จึงเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จ เพราะนอกจากฝีมือแล้ว การวางแผนการทำงานอย่างมีระบบคือสิ่งที่ช่วยให้งานออกมามีคุณภาพ ตรงเวลา และไม่บานปลาย ซึ่งโดยทั่วไป ผู้รับเหมาที่ดีจะมีแผนการทำงาน ดังนี้👇

✅ เริ่มต้นจากการสำรวจหน้างานและวิเคราะห์สภาพจริง

ผู้รับเหมาที่ดีจะไม่ประเมินราคาหรือเริ่มงานจากแค่แบบร่างหรือคำพูดเท่านั้น แต่จะเข้าตรวจสอบหน้างานจริงเพื่อดูรายละเอียด เช่น สภาพโครงสร้างเดิม ว่ามีรอยร้าว ทรุด หรือบกพร่องหรือไม่ ,ระบบไฟฟ้า-ประปาที่มีอยู่ รองรับการใช้งานหรือไม่ ,ลักษณะพื้นที่โดยรอบ เช่น ตำแหน่งท่อ, จุดระบายน้ำ, ความสูงเพดาน รวมถึงข้อจำกัดด้านกฎหมาย, พื้นที่ร่น, หรือแนวทางการขออนุญาตก่อสร้าง

การวางแผนเริ่มจาก “ข้อเท็จจริงในพื้นที่” จะช่วยให้แบบและงบประมาณตรงกับความเป็นจริงมากขึ้น และลดความเสี่ยงจากการแก้ไขหน้างานภายหลัง

✅ จัดทำแบบแปลน + Moodboard / 3D เพื่อนำเสนองานก่อนลงมือ

ผู้รับเหมาที่เชี่ยวชาญจะไม่ใช้เพียงแบบสเก็ตช์คร่าวๆ แต่จะมีการจัดทำแบบ 2D/3D และอาจเสริมด้วย Moodboard วัสดุเพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพรวมของงานก่อนเริ่มจริง ซึ่งจะมีประโยชน์มากในด้าน การลดความเข้าใจผิดระหว่างผู้ว่าจ้าง-ผู้รับเหมา ,การวางระบบแสง-ไฟ-ท่อน้ำได้ถูกต้องตั้งแต่ต้น ,การใช้ควบคุมงานในแต่ละเฟสให้เป็นไปตามแบบ และลูกค้านั้นสามารถปรับแก้ก่อนลงมือจริง ลดต้นทุนซ้ำซ้อน นอกจากนี้ยังสามารถใช้แบบในการขออนุญาตต่อเติมกับหน่วยงานราชการได้อย่างถูกต้องอีกด้วย

✅ วางแผนงานอย่างเป็นขั้นตอน (Project Timeline & Gantt Chart)

ผู้รับเหมาที่เป็นมืออาชีพจะมี แผนงาน (Work Schedule) ที่ชัดเจน แสดงลำดับของงานตั้งแต่ งานรื้อถอน / เตรียมพื้นที่ ,งานโครงสร้าง / เสริมฐานราก (ถ้ามี) ,งานระบบไฟฟ้า-ประปา / ท่อน้ำทิ้ง / เดินสาย ,งานผนัง / พื้น / เพดาน ,งานตกแต่ง / Built-in / เฟอร์นิเจอร์ รวมถึงสุดท้ายคือการตรวจสอบและส่งมอบ

โดยจะแสดงเป็นตาราง (Gantt Chart) พร้อมระยะเวลาในแต่ละเฟส เพื่อให้เจ้าของโครงการสามารถตรวจสอบความคืบหน้าได้ตลอด และรู้ว่าควรคาดหวังอะไรในช่วงไหน

✅ วางแผนงบประมาณ (BOQ) อย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้

BOQ (Bill of Quantity) หรือรายการวัสดุ+ปริมาณงาน คือสิ่งที่ผู้รับเหมาที่ดีจะจัดทำให้ลูกค้าอย่างละเอียด ซึ่งควรรวมถึง รายการวัสดุหลักที่ใช้ เช่น กระเบื้อง, ไฟ, สี, สุขภัณฑ์ ,ราคาต่อหน่วย และปริมาณที่ใช้ ,ค่าบริการแยกแต่ละเฟส (แรงงาน, ค่าออกแบบ, ค่าขนย้าย ฯลฯ) และค่าดำเนินการเพิ่มเติม (ถ้ามี) สิ่งนี้ช่วยให้ลูกค้าตรวจสอบงบได้ตลอดเวลา และป้องกันปัญหาการเก็บเงินเพิ่มระหว่างทางแบบไม่มีที่มา

✅ ควบคุมคุณภาพ + ตรวจงานทุกขั้นตอนอย่างมีระบบ

ผู้รับเหมาที่มีมาตรฐานจะมีหัวหน้าทีมหรือวิศวกรคอยควบคุมงานหน้างาน พร้อมทั้งตรวจเช็กคุณภาพทุกเฟส เช่นเช็กระดับพื้นและผนังว่าได้ฉากและระดับหรือไม่ ,ตรวจความเรียบร้อยของระบบไฟ-ประปา ก่อนปิดผนัง ,ทดสอบน้ำรั่ว แรงดันไฟ และการระบายอากาศ รวมถึงตรวจเก็บงานตกแต่งให้ตรงแบบก่อนส่งมอบ

บางทีมงานอาจมี Checklist QC (Quality Control) ให้ลูกค้าลงนามรับงานในแต่ละช่วง เป็นการแสดงความโปร่งใสและความใส่ใจในคุณภาพงาน

✅ หลังส่งมอบมีบริการรับประกันและแก้งานหากพบปัญหา

ผู้รับเหมาที่ดีจะไม่ “หายตัว” หลังส่งมอบงาน แต่จะมีระยะเวลารับประกัน เช่น 6 เดือน – 1 ปี และให้บริการตรวจเช็กซ่อมแซม หากมีปัญหาเช่น น้ำซึม ไฟดับ สีลอก หรือโครงสร้างบิดเบี้ยว นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นว่าทีมงานมั่นใจในฝีมือและรับผิดชอบจริง

ผู้รับเหมางานรีโนเวทอาคารพาณิชย์ที่ดี ไม่ได้มีแค่ “ทีมช่างเก่ง” แต่ต้องมี “ระบบวางแผน” และ “แนวคิดแบบมืออาชีพ” ที่ดูแลตั้งแต่ต้นจนจบอย่างครบวงจร ซึ่งทั้งหมดนี้จะสะท้อนออกมาใน คุณภาพงาน, ความตรงเวลา, และความคุ้มค่าของการลงทุน

.

เพราะงานรีโนเวทอาคารพาณิชย์ไม่ใช่แค่เรื่องของ “การก่อสร้าง” แต่คือ “การลงทุน” ที่ต้องวางแผนอย่างรอบด้าน การเลือกผู้รับเหมาที่มีทั้งทีม ออกแบบและก่อสร้างในทีมเดียวกัน จะช่วยประหยัดต้นทุนได้มาก โดยเฉพาะในส่วนของค่าออกแบบที่สามารถหักลบจากค่าก่อสร้างได้ 100% และที่สำคัญ ยังช่วยควบคุมงบประมาณให้อยู่ในกรอบได้ตั้งแต่แรกเริ่ม เพราะทีมออกแบบรู้ข้อจำกัดของงานก่อสร้างจริง ไม่หลุดงบ ไม่ออกแบบเกินความจำเป็น และไม่เกิดปัญหาแก้แบบซ้ำซ้อนภายหลัง

.

รับรีโนเวทอาคารพาณิชย์ โดยหากคุณกำลังมองหาทีมงานที่เข้าใจทั้ง “การออกแบบเชิงธุรกิจ” และ “การก่อสร้างเชิงวิศวกรรม” ในแบบที่คุมงบได้จริง ส่งมอบงานตรงเวลา และพร้อมดูแลทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบ เราคือทีมรับรีโนเวทอาคารพาณิชย์ที่พร้อมเปลี่ยนพื้นที่ของคุณให้กลายเป็นสินทรัพย์สร้างรายได้อย่างคุ้มค่าและยั่งยืน — ให้ทุกตารางเมตรทำงานแทนคุณได้ตั้งแต่วันแรกที่เปิดใช้งาน

>>รีโนเวทตึกแถวพาณิชย์ คลิก

“เราเป็นมากกว่าบริษัทรับออกแบบและก่อสร้าง เพราะนอกจากงานก่อสร้างรีโนเวทและตกแต่งแล้ว เรายังให้ความรู้ที่สำคัญในงานก่อสร้างด้วย เพราะทุกๆความรู้นั้นย่อมนำมาซึ่งการพัฒนางานก่อสร้างได้อย่างยั่งยืน” บริษัทเรารับออกแบบตกแต่งภายในร้านอาหารทุกประเภทด้วยมัณฑนากรมืออาชีพและทีมช่างคุณภาพประสบการณ์มากกว่า20ปี โดยท่านสามารถส่งความต้องการมาหาเราได้ตามช่องทางข้างล่างนี้

สนใจติดต่อ งานออกแบบตกแต่งภายในและรีโนเวทอาคาร

• • • • นัดดูหน้างานได้ที่ 095-864-6299
      • ส่งภาพหน้างานและพูดคุยได้ที่ Line
        
        
      • Email : thaimawee@hotmail.com
      • ติดตามเพิ่มเติมที่ www.facebook.com/weeinterior