ออกแบบร้านกาแฟสไตล์ลอฟท์

ออกแบบร้านกาแฟสไตล์ลอฟท์ สวยดิบอย่างมีสไตล์

ออกแบบร้านกาแฟสไตล์ลอฟท์ สไตล์ลอฟท์เป็นการออกแบบที่โดดเด่นด้วยความดิบเท่และเรียบง่าย ซึ่งเป็นที่นิยมในร้านกาแฟยุคใหม่ การออกแบบร้านกาแฟในสไตล์นี้เน้นการโชว์โครงสร้างของวัสดุ เช่น ผนังปูนเปลือย ท่อเหล็ก และไม้ธรรมชาติ พร้อมกับการจัดแสงที่อบอุ่นและเฟอร์นิเจอร์ที่มีกลิ่นอายของงานอุตสาหกรรม เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและทันสมัย ดึงดูดลูกค้าที่ชื่นชอบความมีเอกลักษณ์และสไตล์เฉพาะตัวของร้านกาแฟลอฟท์

ออกแบบร้านกาแฟสไตล์ลอฟท์ และสไตล์ลอฟท์เป็นอย่างไร

สไตล์ลอฟท์ (Loft Style) เป็นการออกแบบและตกแต่งที่มีจุดเด่นในความดิบเท่ เรียบง่าย และเปิดเผยโครงสร้างของอาคารแบบไม่ปิดบัง มักจะได้รับแรงบันดาลใจจากโรงงานหรือโกดังเก็บของในยุคอุตสาหกรรมที่ถูกปรับปรุงให้เป็นพื้นที่อยู่อาศัยหรือใช้งานอื่น ๆ ลักษณะสำคัญของสไตล์ลอฟท์ ได้แก่

1 วัสดุที่โชว์เนื้อแท้

– ผนังปูนเปลือย อิฐแดง หรือคอนกรีตดิบ

– พื้นผิวโลหะ เช่น เหล็กดำ หรือเหล็กสนิม

– ไม้ธรรมชาติ หรือไม้เก่าที่มีลวดลายชัดเจน

2 โครงสร้างที่เปิดเผย

– ท่อเหล็กหรือท่อประปาที่ไม่ได้ซ่อน

– คานไม้หรือคานเหล็กที่เห็นได้ชัดเจน

3 พื้นที่โปร่งโล่ง

– มีการจัดพื้นที่แบบ Open Space ไม่มีกำแพงกั้นพื้นที่มากนัก

– ฝ้าเพดานสูง เพิ่มความรู้สึกโปร่งสบาย

4 การจัดแสง

– ใช้โคมไฟแบบอุตสาหกรรม เช่น โคมไฟเหล็กหรือโคมไฟแขวน

– เน้นแสงอบอุ่น เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย

5 สีและโทน

– ใช้สีพื้นฐาน เช่น เทา ดำ ขาว และน้ำตาลจากไม้

– เพิ่มลูกเล่นด้วยเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งที่มีสีสันเล็กน้อย

สไตล์ลอฟท์เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเรียบง่ายแต่มีเอกลักษณ์ และต้องการบรรยากาศที่ดูเท่และทันสมัยในพื้นที่ของตนเอง

สไตล์ลอฟท์ (Loft Style) และ สไตล์อินดัสเทียล (Industrial Style) ต่างกันอย่างไร คนมักสับสน

สไตล์ลอฟท์ (Loft Style) และ สไตล์อินดัสเทียล (Industrial Style) มีความคล้ายคลึงกันในแง่ของการนำเสนอความดิบ เท่ และเน้นวัสดุธรรมชาติ แต่ทั้งสองมีเอกลักษณ์และรายละเอียดที่แตกต่างกัน ซึ่งทำให้คนส่วนใหญ่มักสับสน เราสามารถแยกความแตกต่างได้ดังนี้

1 แนวคิดและต้นกำเนิด

สไตล์ลอฟท์ (Loft Style)

– มีต้นกำเนิดจากการดัดแปลงโรงงานหรือโกดังเก่าในเมืองให้เป็นที่อยู่อาศัย พื้นที่แบบ open space มีเพดานสูง ไม่มีการแบ่งห้องชัดเจน

– โดดเด่นด้วยความโปร่งโล่งและการใช้วัสดุที่เน้นความเป็นธรรมชาติ

สไตล์อินดัสเทียล (Industrial Style)

– ได้แรงบันดาลใจจากยุคอุตสาหกรรม เน้นการออกแบบให้ดูคล้ายโรงงานหรือสถานที่ทำงานในอดีต

– มีลักษณะดิบกว่า เน้นใช้โลหะและวัสดุที่มีความแข็งแรง

2. วัสดุและการตกแต่ง

สไตล์ลอฟท์

– เน้นการโชว์วัสดุธรรมชาติ เช่น ผนังปูนเปลือย ไม้เก่า และอิฐแดง

– ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีความหลากหลาย ทั้งไม้และผ้า เพิ่มความรู้สึกอบอุ่น

สไตล์อินดัสเทียล

– เน้นวัสดุที่แข็งแกร่ง เช่น เหล็กดำ สังกะสี และโลหะ

– เฟอร์นิเจอร์มักจะเป็นโลหะหรือวัสดุที่มีลุคหนักแน่น

3. บรรยากาศ

สไตล์ลอฟท์ บรรยากาศจะโปร่งสบาย ดูอบอุ่นกว่าด้วยการใช้แสงธรรมชาติและโทนสีอ่อนผสมกับสีเข้ม

สไตล์อินดัสเทียล ให้ความรู้สึกแข็งแรงและดิบเถื่อนกว่า โทนสีจะเข้ม เช่น ดำ เทา น้ำตาลเข้ม

4. การใช้งานและพื้นที่

สไตล์ลอฟท์ มักใช้กับพื้นที่อยู่อาศัย เช่น บ้านหรือคอนโด และพื้นที่ที่ต้องการความรู้สึกอบอุ่นและเปิดโล่ง

สไตล์อินดัสเทียล นิยมใช้ในร้านค้า ร้านอาหาร หรือบาร์ที่ต้องการบรรยากาศเท่และดึงดูดสายตา

สรุปความแตกต่าง สไตล์ลอฟท์ (Loft Style) และ สไตล์อินดัสเทียล (Industrial Style)

– ลอฟท์ โปร่ง โล่ง อบอุ่น ดูเป็นมิตร

– อินดัสเทียล แข็งแรง ดิบเถื่อน และดูหนักแน่น

แม้จะมีความคล้ายกัน แต่การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับความต้องการและความรู้สึกที่ต้องการถ่ายทอดออกมาในพื้นที่

ออกแบบร้านกาแฟสไตล์ลอฟท์ (Loft Style) นำมาปรับใช้ในการแต่งร้านกาแฟและคาเฟ่ได้อย่างไร

การปรับสไตล์ลอฟท์ (Loft Style) ในการตกแต่งร้านกาแฟและคาเฟ่ เป็นแนวคิดที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดิบเท่ มีเอกลักษณ์ และอบอุ่นในเวลาเดียวกัน เหมาะสำหรับดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ นี่คือแนวทางที่สามารถนำไปปรับใช้ได้

1. โครงสร้างและวัสดุ

โชว์โครงสร้างดิบ ๆ ของอาคาร ผนังปูนเปลือยหรืออิฐแดงที่ไม่ได้ฉาบเรียบ หรือการเปิดให้เห็นโครงเหล็ก คานไม้ หรือเพดานสูง

ใช้วัสดุธรรมชาติ โต๊ะและเก้าอี้ไม้, ท็อปโต๊ะหิน, ผสมกับเฟอร์นิเจอร์เหล็กสีดำ เพื่อความสมดุลระหว่างความอบอุ่นและดิบ

พื้นผิวที่หลากหลาย พื้นปูนขัดมันหรือไม้เก่าที่ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติและเข้ากับบรรยากาศร้านกาแฟ

2. การจัดแสง

โคมไฟสไตล์อุตสาหกรรม ใช้โคมไฟแขวนที่ทำจากโลหะ เช่น สีดำหรือทองแดง หรือโคมไฟเปลือยที่เห็นหลอดไฟชัดเจน

แสงอบอุ่น เน้นไฟสี Warm White เพื่อสร้างบรรยากาศผ่อนคลายเหมาะกับการนั่งจิบกาแฟ

3. เฟอร์นิเจอร์

การผสมผสาน เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีความหลากหลาย เช่น เก้าอี้เหล็กผสมไม้ โต๊ะกลางที่ดูเรียบง่ายแต่ทันสมัย

โซฟาและที่นั่ง ใช้โซฟาหนังสีเข้ม เช่น สีน้ำตาลหรือสีดำ เพื่อเพิ่มมิติให้พื้นที่

ชั้นวางแบบเปิด ชั้นวางที่โชว์โครงเหล็กและไม้ สามารถใช้จัดวางเมล็ดกาแฟ หรือสินค้าของร้าน

4. การตกแต่งภายใน

ของตกแต่งที่มีเอกลักษณ์ นาฬิกาแขวนขนาดใหญ่ กรอบรูปวินเทจ หรือของเก่าสไตล์อุตสาหกรรม

พืชสีเขียว เพิ่มความสดชื่นด้วยไม้กระถางขนาดเล็ก เช่น ไม้ฟอกอากาศ วางตามมุมร้านเพื่อความสมดุล

กระจกและหน้าต่าง ใช้กระจกบานใหญ่เพื่อให้แสงธรรมชาติเข้าถึง และเพิ่มความโปร่งโล่ง

5. การใช้พื้นที่

จัดพื้นที่แบบ Open Space ไม่ต้องแบ่งโซนมากนัก แต่ใช้เฟอร์นิเจอร์เป็นตัวแยกพื้นที่ เช่น โต๊ะยาวสำหรับลูกค้าที่ต้องการทำงาน และมุมนั่งชิลสำหรับกลุ่มเพื่อน

เคาน์เตอร์บาร์ ใช้เคาน์เตอร์ปูนเปลือยหรือไม้ท็อปสีเข้ม พร้อมเก้าอี้สตูลสูง

6. โทนสี

สีหลัก เทา ดำ น้ำตาล และขาว เป็นโทนสีพื้นฐานของสไตล์ลอฟท์

เพิ่มจุดเด่นด้วยสีสด ใช้สีเหลือง แดง หรือเขียวในของตกแต่งหรือภาพวาดบนผนัง

ข้อดีของการใช้สไตล์ลอฟท์ในร้านกาแฟ

– ดึงดูดสายตา มีเอกลักษณ์และช่วยให้ร้านโดดเด่น

– ต้นทุนต่ำ วัสดุบางอย่าง เช่น ปูนเปลือยหรือไม้เก่า มีราคาไม่สูง

– ความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนรายละเอียดการตกแต่งได้ง่าย

– สร้างบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง ทำให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลาย

การนำสไตล์ลอฟท์มาใช้ในการตกแต่งร้านกาแฟสามารถช่วยสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้ร้านได้เป็นอย่างดี และทำให้ลูกค้าจดจำร้านได้ง่ายขึ้น

ร้านกาแฟสไตล์ลอฟท์กับตัวอย่างที่สามารถนำไปเป้นไอเดียต่อยอดให้กับร้านของคุณได้

ออกแบบร้านกาแฟสไตล์ลอฟท์ การออกแบบร้านกาแฟสไตล์ลอฟท์ไม่ได้เป็นเพียงแค่การสร้างบรรยากาศที่ดึงดูดสายตา แต่ยังสะท้อนถึงเอกลักษณ์และความตั้งใจของเจ้าของร้านที่ต้องการมอบประสบการณ์พิเศษให้กับลูกค้า ด้วยการผสมผสานวัสดุธรรมชาติ โครงสร้างดิบเท่ และการตกแต่งที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ร้านกาแฟสไตล์ลอฟท์จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าประทับใจสำหรับผู้ที่มองหาความแปลกใหม่และพื้นที่ที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจในทุก ๆ แก้วกาแฟที่เสิร์ฟ

>>การสร้างร้านกาแฟแบบมืออาชีพ คลิก

>>หลักการออกแบบคาเฟ่ ออกแบบอย่างไรให้ปัง! คลิก

“เราเป็นมากกว่าบริษัทออกแบบ เพราะนอกจากเสนองานออกแบบและตกแต่งแล้ว เรายังให้ความรู้ทางการตลาดควบคู่ไปด้วย เพราะมันคือสิ่งสำคัญสำหรับการเปิดร้านเพื่อธุรกิจ” บริษัทเรารับออกแบบตกแต่งภายในร้านอาหารทุกประเภทด้วยมัณฑนากรมืออาชีพและทีมช่างคุณภาพประสบการณ์มากกว่า20ปี โดยท่านสามารถส่งความต้องการมาหาเราได้ตามช่องทางข้างล่างนี้

สนใจติดต่อ งานออกแบบตกแต่งภายในและรีโนเวทอาคาร

• • • • นัดดูหน้างานได้ที่ 095-864-6299
      • ส่งภาพหน้างานและพูดคุยได้ที่ Line
        
        
      • Email : thaimawee@hotmail.com
      • ติดตามเพิ่มเติมที่ www.facebook.com/weeinterior