รับรีโนเวทบ้านขอนแก่น
“เราเป็นมากกว่าบริษัทรับออกแบบก่อสร้างและรีโนเวทตกแต่ง เพราะนอกจากเสนองานออกแบบที่มีคุณภาพให้แก่ท่านแล้ว เรายังให้ความรู้ในการก่อสร้างเบื้องต้นให้แก่ท่านด้วยด้วย เพราะความรู้ที่ถูกต้องนั้น จะช่วยให้ท่านรู้จริง รู้ทัน อันจะทำให้ท่านได้รับแต่สิ่งที่ดีที่ถูกต้องนั่นเอง”
รับรีโนเวทบ้านขอนแก่น โดยมืออาชีพ
รับรีโนเวทบ้านขอนแก่น บ้านเป็นพื้นที่สำคัญที่สะท้อนถึงตัวตนและความอบอุ่นของผู้อยู่อาศัย หากคุณกำลังมองหาวิธีปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงบ้านเก่าในจังหวัดขอนแก่นให้กลับมาสวยงามและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริการรีโนเวทบ้านของเราคือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ เราพร้อมช่วยคุณออกแบบและปรับปรุงบ้านให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ด้วยทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์ และการใช้วัสดุคุณภาพสูง เพื่อให้บ้านของคุณกลับมาเป็นพื้นที่ที่คุณภูมิใจอีกครั้ง
รับรีโนเวทบ้านขอนแก่น กับในส่วนของวัฒนธรรมและศิลปกรรมในจังหวัดขอนแก่นที่ควรคำนึงถึง
การปรับปรุงรีโนเวทบ้านในจังหวัดขอนแก่นควรคำนึงถึงศิลปะวัฒนธรรมของจังหวดประกอบด้วยเพื่อให้ตรงกับความต้องการของชาวขอนแก่น วัฒนธรรมกับศิลปกรรมในจังหวัดขอนแก่นมีลักษณะอย่างไรที่ควรคำนึงถึง
จังหวัดขอนแก่นเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและศิลปกรรมของภาคอีสาน ที่ผสานความงดงามของศิลปะดั้งเดิมเข้ากับความเป็นสมัยใหม่ การรีโนเวทบ้านในจังหวัดนี้จึงควรสะท้อนถึงอัตลักษณ์และเอกลักษณ์ของขอนแก่น เพื่อให้เข้ากับวิถีชีวิตและความต้องการของคนในพื้นที่
1. ศิลปะและสถาปัตยกรรมพื้นถิ่น
– บ้านเรือนไทยอีสาน
บ้านเรือนไทยอีสานแบบดั้งเดิมมีจุดเด่นที่หลังคาทรงจั่วสูง ใต้ถุนยกพื้น และการใช้ไม้เป็นวัสดุหลัก การรีโนเวทอาจดัดแปลงดีไซน์เหล่านี้ เช่น การเลือกหลังคาลอนคล้ายจั่ว หรือใช้ไม้ตกแต่งเพื่อสร้างความรู้สึกอบอุ่น
– วัดและเจดีย์
วัดสำคัญ เช่น พระธาตุขามแก่น และ พระมหาธาตุแก่นนคร มีลวดลายศิลปะที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะลาวและขอม เช่น ลายกนกหรือลายพญานาค ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในรายละเอียดการตกแต่งบ้าน เช่น ลายฉลุหน้าบันหรือลายปูนปั้น
2. การใช้วัสดุธรรมชาติ
– ไม้และอิฐดินเผา
วัสดุธรรมชาติเช่นไม้และอิฐดินเผาเป็นที่นิยมในบ้านดั้งเดิมของขอนแก่น สามารถนำมาใช้ในงานรีโนเวทเพื่อเพิ่มความเป็นเอกลักษณ์ เช่น ผนังไม้ระแนงหรือพื้นไม้ที่เข้ากับบรรยากาศท้องถิ่น
– เครื่องจักสาน
การใช้เครื่องจักสาน เช่น ตะกร้าหรือพัดที่ทำจากหวาย สามารถเพิ่มลูกเล่นในงานตกแต่งภายในเพื่อสะท้อนถึงวิถีชีวิตแบบพื้นบ้าน
3. วัฒนธรรมพื้นบ้าน
– การบูชาพระธาตุและวัด
ชาวขอนแก่นมีความเชื่อเกี่ยวกับการบูชาพระธาตุและการทำบุญที่วัด การรีโนเวทบ้านอาจคำนึงถึงการออกแบบพื้นที่สำหรับตั้งหิ้งพระหรือมุมสำหรับการทำบุญในบ้าน
– ผ้าทอพื้นเมือง
ผ้าไหมแพรวาหรือผ้าขิดลายดั้งเดิมสามารถนำมาใช้ในงานตกแต่ง เช่น การทำผ้าม่าน ปลอกหมอน หรือการตกแต่งผนัง เพื่อเพิ่มความอบอุ่นและกลิ่นอายของวัฒนธรรมอีสาน
4. โทนสีและลวดลาย
– โทนสีอบอุ่น
สีที่นิยมในศิลปะขอนแก่นมักเป็นโทนสีธรรมชาติ เช่น สีน้ำตาลจากไม้ สีแดงอิฐดินเผา หรือสีทองที่มักปรากฏในวัด การใช้สีเหล่านี้ในการรีโนเวทจะช่วยสร้างบรรยากาศที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมท้องถิ่น
– ลวดลายดั้งเดิม
การนำลวดลายดั้งเดิม เช่น ลายพญานาคหรือลายดอกจัน มาใช้ในงานตกแต่ง เช่น ลายกระเบื้องหรือลายฉลุ จะช่วยเพิ่มความเป็นเอกลักษณ์ให้กับบ้าน
5. การออกแบบพื้นที่ให้เหมาะสมกับวิถีชีวิต
– พื้นที่รับแขกแบบเปิด
ชาวขอนแก่นมักมีกิจกรรมชุมชนหรือการต้อนรับแขกในบ้าน พื้นที่ใช้สอยควรออกแบบให้เปิดโล่งและใช้งานได้อเนกประสงค์
– พื้นที่ทำครัวแบบอีสาน
การออกแบบครัวให้เหมาะกับการทำอาหารอีสาน เช่น การทำปลาร้าหรือการย่างปลา ควรมีระบบระบายอากาศที่ดี
สรุป การรีโนเวทบ้านในขอนแก่นควรผสานความทันสมัยเข้ากับศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างลงตัว เพื่อสร้างเอกลักษณ์ที่สะท้อนถึงความเป็นขอนแก่นและตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ได้อย่างแท้จริง
รับรีโนเวทบ้านขอนแก่น เมื่อเทียบกับการรื้อทุบแล้วสร้างใหม่ มีข้อดีหลายประการที่สามารถพิจารณาได้ ดังนี้
ข้อดีของการรีโนเวทบ้าน
1 ประหยัดค่าใช้จ่าย
– การรีโนเวทมักใช้งบประมาณน้อยกว่าการสร้างบ้านใหม่ เนื่องจากยังคงใช้โครงสร้างพื้นฐานเดิม เช่น ฐานราก เสา และคาน
– ลดต้นทุนในการรื้อถอนโครงสร้างทั้งหมดและการขนย้ายเศษวัสดุ
2 ประหยัดเวลา
– ใช้เวลาน้อยกว่าการสร้างใหม่ เพราะไม่ต้องเริ่มต้นจากการวางโครงสร้างทั้งหมด
– สามารถปรับปรุงทีละส่วนได้ โดยไม่ต้องหยุดการใช้งานบ้านทั้งหมด
3 คงไว้ซึ่งความทรงจำและเอกลักษณ์เดิม
– บ้านเก่ามักมีความทรงจำที่สำคัญสำหรับเจ้าของบ้าน การรีโนเวทช่วยปรับปรุงพื้นที่ให้ทันสมัยโดยยังคงกลิ่นอายและเอกลักษณ์เดิม
– เหมาะสำหรับบ้านที่มีคุณค่าทางสถาปัตยกรรมหรือประวัติศาสตร์
4 ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
– ช่วยลดปริมาณขยะก่อสร้างที่เกิดจากการทุบบ้าน
– วัสดุเดิมที่ยังใช้งานได้ เช่น ไม้หรือประตูหน้าต่าง สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
5 เพิ่มมูลค่าให้กับบ้าน
– บ้านที่ได้รับการรีโนเวทอย่างเหมาะสมจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อขายต่อ เพราะมีการปรับปรุงให้ดูสวยงามและใช้งานได้ดีขึ้น
6 ออกแบบได้ตามต้องการ
– สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย เช่น การเพิ่มพื้นที่เก็บของ การปรับห้องครัว หรือการจัดพื้นที่สำหรับทำงาน
ข้อดีเมื่อเทียบกับการรื้อทุบแล้วสร้างใหม่
– การสร้างใหม่ เหมาะสำหรับกรณีที่บ้านเดิมมีโครงสร้างเสียหายหนัก หรือต้องการเปลี่ยนดีไซน์ทั้งหมด แต่จะมีค่าใช้จ่ายและเวลาที่สูงกว่าอย่างมาก
– การรีโนเวท เหมาะสำหรับบ้านที่โครงสร้างหลักยังแข็งแรง และต้องการปรับปรุงเพื่อความสวยงามหรือฟังก์ชันใหม่ โดยยังคงรักษาโครงสร้างเดิมไว้
สรุป การรีโนเวทบ้านเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าทั้งในแง่การประหยัดงบประมาณ เวลา และการคงไว้ซึ่งความทรงจำเดิมของบ้าน อย่างไรก็ตาม การเลือกรีโนเวทหรือสร้างใหม่ควรพิจารณาจากสภาพโครงสร้างเดิม งบประมาณ และความต้องการของเจ้าของบ้าน หากบ้านเดิมยังแข็งแรง การรีโนเวทจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด
ก่อนทำการรีโนเวทบ้านควรเตรียมความพร้อมอย่างไรบ้าง
การเตรียมความพร้อมก่อนทำการรีโนเวทบ้านเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้การปรับปรุงบ้านเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ต่อไปนี้คือสิ่งที่ควรพิจารณาและเตรียมการก่อนเริ่มต้นรีโนเวทบ้าน
1. ประเมินสภาพบ้านเดิม
– ตรวจสอบโครงสร้าง ตรวจดูความแข็งแรงของฐานราก เสา คาน หลังคา และผนัง หากพบปัญหาเช่น รอยแตกร้าวหรือความเสียหาย ต้องแก้ไขก่อน
– ประเมินระบบภายใน ตรวจสอบระบบไฟฟ้า ประปา ท่อระบายน้ำ และระบบสุขาภิบาล เพื่อวางแผนการปรับปรุงอย่างเหมาะสม
2. วางแผนงบประมาณ
– กำหนดงบประมาณ คำนวณค่าใช้จ่ายเบื้องต้น รวมถึงค่าแรง วัสดุ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าขออนุญาตหรือค่าปรึกษาสถาปนิก
– เผื่องบประมาณสำรอง ควรเตรียมงบสำรองประมาณ 10-20% ของงบประมาณทั้งหมด สำหรับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด
3. กำหนดเป้าหมายและรูปแบบที่ต้องการ
– เป้าหมายการรีโนเวท ต้องการปรับปรุงบ้านเพื่ออะไร เช่น เพิ่มพื้นที่ใช้สอย ซ่อมแซมส่วนที่ชำรุด หรือเปลี่ยนสไตล์บ้าน
– รูปแบบการตกแต่ง เลือกสไตล์ที่ต้องการ เช่น โมเดิร์น คลาสสิก หรือแบบดั้งเดิม โดยอาจปรึกษาสถาปนิกหรือมัณฑนากร
4. การเลือกทีมงานมืออาชีพ
– หาผู้เชี่ยวชาญ เลือกผู้รับเหมา วิศวกร หรือสถาปนิกที่มีประสบการณ์และผลงานที่น่าเชื่อถือ
– ตรวจสอบสัญญา ทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรระบุรายละเอียดงาน ค่าใช้จ่าย และระยะเวลาให้ชัดเจน
5. ขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
– ตรวจสอบกฎหมาย หากการรีโนเวทมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหรือพื้นที่ ต้องยื่นขออนุญาตจากหน่วยงานท้องถิ่น
– ปฏิบัติตามข้อบังคับ เช่น ข้อกำหนดเกี่ยวกับระยะร่น พื้นที่สีเขียว หรือความสูงของอาคาร
6. เตรียมพื้นที่และเคลื่อนย้ายสิ่งของ
– เคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ ย้ายของมีค่าและเฟอร์นิเจอร์ออกจากพื้นที่ที่จะรีโนเวท เพื่อป้องกันความเสียหาย
– จัดการพื้นที่ทำงาน วางแผนพื้นที่สำหรับเก็บวัสดุและเครื่องมือ รวมถึงการจัดการขยะก่อสร้าง
7. การวางแผนระยะเวลา
– กำหนดตารางเวลา วางแผนระยะเวลาการรีโนเวทแต่ละส่วน เพื่อจัดการเวลาให้สอดคล้องกับการใช้งาน
– ประสานงานกับทีมงาน พูดคุยกับผู้รับเหมาและทีมงานเพื่อให้มั่นใจว่าทุกฝ่ายเข้าใจแผนงาน
8. การเตรียมพร้อมสำหรับการอยู่อาศัย
– ที่พักชั่วคราว หากการรีโนเวทใช้เวลานานหรือส่งผลกระทบต่อการอยู่อาศัย ควรเตรียมหาที่พักชั่วคราว
– ความปลอดภัยในพื้นที่ หากยังคงอยู่อาศัยระหว่างรีโนเวท ควรจัดการพื้นที่ให้ปลอดภัย เช่น การปิดกั้นพื้นที่อันตราย
สรุป การเตรียมตัวก่อนรีโนเวทบ้านช่วยลดปัญหาและความล่าช้าที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างการทำงาน ควรวางแผนอย่างรอบคอบทั้งในด้านงบประมาณ การออกแบบ และการเลือกทีมงาน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการและคุ้มค่าที่สุด
รีโนเวทต้องเลือกมืออาชีพมาทำให้ ข้อดีของการเลือกมืออาชีพมาทำงานมีข้อดีอย่างไร
การรีโนเวทบ้านเป็นงานที่ต้องอาศัยความชำนาญและประสบการณ์เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีและคุ้มค่า การเลือกมืออาชีพมาทำงานมีข้อดีหลายประการที่ช่วยให้เจ้าของบ้านมั่นใจในคุณภาพงานและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ดังนี้
1. คุณภาพงานที่เชื่อถือได้
– มืออาชีพมีความรู้และทักษะที่เชี่ยวชาญในงานรีโนเวท เช่น การซ่อมโครงสร้าง การติดตั้งระบบไฟฟ้าและประปา หรือการตกแต่งภายใน
– งานที่ได้จะมีความเรียบร้อยและตรงตามมาตรฐานการก่อสร้าง ลดความเสี่ยงจากปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
2. ประหยัดเวลาและจัดการงานได้เป็นระบบ
– ทีมงานมืออาชีพมีแผนงานและตารางเวลาในการทำงานที่ชัดเจน ทำให้งานรีโนเวทเสร็จตามกำหนด
– ลดปัญหาความล่าช้าจากการทำงานที่ไม่มีระบบหรือขาดประสบการณ์
3. การวางแผนและให้คำปรึกษาที่ครอบคลุม
– มืออาชีพสามารถช่วยเจ้าของบ้านวางแผนการรีโนเวทให้เหมาะสมกับงบประมาณและความต้องการ
– ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกวัสดุ การออกแบบ และการปรับปรุงพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
4. ลดความผิดพลาดและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
– ด้วยประสบการณ์และความชำนาญ มืออาชีพสามารถหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดในการทำงานได้ เช่น การติดตั้งระบบที่ไม่ถูกต้องหรือเลือกวัสดุที่ไม่เหมาะสม
– ลดโอกาสที่ต้องซ่อมแซมงานซ้ำหรือเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
5. มีการรับประกันงาน
– ทีมงานมืออาชีพมักมีการรับประกันคุณภาพงาน เช่น การซ่อมแซมหรือปรับปรุงเพิ่มเติมในกรณีที่มีปัญหาหลังงานเสร็จ
– เจ้าของบ้านจึงมั่นใจได้ว่างานที่ได้รับมีความมั่นคงและปลอดภัย
6. การจัดการทีมงานและการประสานงานที่มีประสิทธิภาพ
– มืออาชีพสามารถจัดการทีมงานในแต่ละส่วน เช่น ช่างไฟฟ้า ช่างประปา และช่างตกแต่ง ให้ทำงานสอดคล้องกัน
– ลดความยุ่งยากที่เจ้าของบ้านต้องจัดการเอง
7. ผลงานที่ตรงกับความต้องการและสวยงาม
– ทีมงานมืออาชีพสามารถแปลงไอเดียของเจ้าของบ้านให้กลายเป็นความจริง พร้อมช่วยปรับแต่งรายละเอียดให้ตรงกับสไตล์และฟังก์ชันการใช้งาน
– งานรีโนเวทที่ได้มักดูทันสมัยและลงตัวกับบ้านโดยรวม
8. การปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับ
– มืออาชีพรู้ถึงข้อกำหนดและกฎหมายเกี่ยวกับการก่อสร้าง เช่น การขออนุญาตรีโนเวทหรือข้อบังคับเรื่องโครงสร้างและระบบความปลอดภัย
– ลดปัญหาทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
สรุป การเลือกมืออาชีพมาทำงานรีโนเวทบ้านช่วยให้เจ้าของบ้านมั่นใจในคุณภาพงาน ประหยัดเวลา และลดความยุ่งยากในทุกขั้นตอน งานที่ได้จะมีความเรียบร้อย ปลอดภัย และตรงกับความต้องการอย่างแท้จริง เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว
การทำงานรีโนเวทบ้านแบบมืออาชีพมีลำดับขั้นตอนการทำงานอย่างไร
การรีโนเวทบ้านแบบมืออาชีพมีลำดับขั้นตอนที่ชัดเจนและเป็นระบบ เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการของเจ้าของบ้าน ดังนี้
1. การสำรวจและวางแผนเบื้องต้น
– การพูดคุยกับลูกค้า เริ่มจากการพูดคุยเพื่อเข้าใจความต้องการ เช่น สไตล์การตกแต่ง การปรับปรุงพื้นที่ และงบประมาณที่ตั้งไว้
– สำรวจบ้านและประเมินสภาพ ตรวจสอบโครงสร้าง ระบบไฟฟ้า ประปา หลังคา และพื้น เพื่อประเมินว่ามีส่วนใดที่ต้องซ่อมแซมหรือปรับปรุง
– การวางแผนงาน กำหนดขอบเขตการรีโนเวท แผนงาน และตารางเวลาที่ชัดเจน
2. การออกแบบและการประเมินค่าใช้จ่าย
– การออกแบบตกแต่ง สถาปนิกหรือมัณฑนากรออกแบบพื้นที่และงานตกแต่งโดยใช้โปรแกรม 3D เพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพรวมของงาน
– การประเมินค่าใช้จ่าย จัดทำใบเสนอราคาที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวมถึงค่าแรง วัสดุ และค่าบริการอื่น ๆ
3. การเตรียมพื้นที่และการขออนุญาต
– การเคลื่อนย้ายสิ่งของ เคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์หรือของมีค่าออกจากพื้นที่รีโนเวทเพื่อป้องกันความเสียหาย
– การขออนุญาต หากงานรีโนเวทมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหรือพื้นที่ อาจต้องยื่นขออนุญาตก่อสร้างจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
4. การรื้อถอนและเตรียมพื้นที่
– การรื้อถอน รื้อถอนส่วนที่ต้องปรับปรุง เช่น ผนัง พื้น หรือระบบเก่า โดยปฏิบัติงานอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้กระทบโครงสร้างเดิม
– การจัดการพื้นที่ เตรียมพื้นที่สำหรับการทำงาน เช่น การเก็บขยะก่อสร้าง การสร้างพื้นที่เก็บวัสดุ และการปรับพื้นที่
5. การปรับปรุงโครงสร้างและระบบพื้นฐาน
– ซ่อมแซมโครงสร้าง ซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย เช่น คาน เสา หรือฐานราก เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัย
– ปรับปรุงระบบไฟฟ้าและประปา ติดตั้งระบบไฟฟ้าใหม่ ปรับปรุงท่อน้ำ และระบบระบายน้ำให้เหมาะสมกับการใช้งาน
6. การตกแต่งและปรับปรุงพื้นที่ภายใน
– การปูพื้นและติดตั้งวัสดุ ติดตั้งพื้นไม้ กระเบื้อง หรือวัสดุอื่น ๆ ตามแบบที่กำหนด
– การตกแต่งผนังและเพดาน ทาสี ติดวอลเปเปอร์ หรือทำฝ้าเพดานให้ตรงตามการออกแบบ
– ติดตั้งเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ ติดตั้งเฟอร์นิเจอร์บิลต์อินหรือเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูป และอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น โคมไฟ ประตู หรือหน้าต่าง
7. การตรวจสอบและส่งมอบงาน
– การตรวจสอบความเรียบร้อย ทีมงานและเจ้าของบ้านตรวจสอบความเรียบร้อยของงาน เช่น การติดตั้งระบบไฟฟ้าและน้ำ การตกแต่ง และความแข็งแรงของโครงสร้าง
– การปรับแก้ไข แก้ไขจุดบกพร่องที่พบระหว่างการตรวจสอบ
– การส่งมอบงาน ส่งมอบงานให้ลูกค้า พร้อมเอกสารรับประกันคุณภาพงานและคำแนะนำในการดูแลบ้าน
8. การดูแลหลังการรีโนเวท
– การรับประกันงาน ให้บริการซ่อมแซมหรือแก้ไขงานที่มีปัญหาภายในระยะเวลาที่กำหนด
– คำแนะนำในการบำรุงรักษา ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลวัสดุและอุปกรณ์ เพื่อยืดอายุการใช้งาน
สรุป การรีโนเวทบ้านแบบมืออาชีพต้องอาศัยการวางแผนและดำเนินงานอย่างเป็นระบบในทุกขั้นตอน เพื่อให้บ้านที่รีโนเวทออกมาสวยงาม แข็งแรง และตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของบ้านได้อย่างสมบูรณ์แบบ
รับรีโนเวทบ้านขอนแก่น เมื่อคุณเลือกรีโนเวทบ้านกับ ไทยมาวี คุณจะได้รับบริการที่ครบวงจร (Turnkey) ตั้งแต่การออกแบบโดยทีมสถาปนิกมืออาชีพ ไปจนถึงการรีโนเวทที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ เราดูแลทุกขั้นตอนด้วยความใส่ใจ ตั้งแต่การวางแผน การเลือกวัสดุคุณภาพ ไปจนถึงการส่งมอบงานที่พร้อมเข้าอยู่ ลูกค้าจึงมั่นใจได้ถึงความคุ้มค่า ทั้งในแง่ของการประหยัดเวลา งบประมาณ และการรับประกันผลงานที่มีมาตรฐานสูงสุด ไทยมาวีพร้อมเปลี่ยนบ้านของคุณให้เป็นพื้นที่ในฝัน ที่สวยงาม ใช้งานได้อย่างลงตัว และสร้างความสุขให้กับคุณในทุกวัน
>>รีโนเวทบ้านร้างเก่าให้ใหม่ คลิก
>>ปัญหาบ้านร้างในการรีโนเวท คลิก
>>รีโนเวทตึกพาณิชย์ คลิก
“เราเป็นมากกว่าบริษัทรับออกแบบก่อสร้างและรีโนเวทตกแต่ง เพราะนอกจากเสนองานออกแบบที่มีคุณภาพให้แก่ท่านแล้ว เรายังให้ความรู้ในการก่อสร้างเบื้องต้นให้แก่ท่านด้วยด้วย เพราะความรู้ที่ถูกต้องนั้น จะช่วยให้ท่านรู้จริง รู้ทัน อันจะทำให้ท่านได้รับแต่สิ่งที่ดีที่ถูกต้องนั่นเอง” บริษัทเรารับออกแบบก่อสร้าง รีโนเวท และตกแต่งภายในอาคารทุกประเภทด้วยสถาปนิกและมัณฑนากรมืออาชีพ รวมถึงทีมช่างคุณภาพประสบการณ์มากกว่า20ปี โดยท่านสามารถส่งความต้องการมาหาเราได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
สนใจติดต่อ งานออกแบบตกแต่งภายในและรีโนเวทอาคาร