บริษัทรับออกแบบรีโนเวทร้านอาหาร
“เราเป็นมากกว่าบริษัทรับออกแบบก่อสร้างและรีโนเวทตกแต่ง เพราะนอกจากเสนองานออกแบบที่มีคุณภาพให้แก่ท่านแล้ว เรายังให้ความรู้ในการก่อสร้างเบื้องต้นให้แก่ท่านด้วยด้วย เพราะความรู้ที่ถูกต้องนั้น จะช่วยให้ท่านรู้จริง รู้ทัน อันจะทำให้ท่านได้รับแต่สิ่งที่ดีที่ถูกต้องนั่นเอง”
บริษัทรับออกแบบรีโนเวทร้านอาหาร | ภาพลักษณ์ใหม่บนเม็ดเงินที่ไหลเข้า
บริษัทรับออกแบบรีโนเวทร้านอาหาร การออกแบบและรีโนเวทร้านอาหารไม่ได้เป็นเพียงแค่การปรับเปลี่ยนพื้นที่ แต่ยังเป็นการสร้างประสบการณ์ที่โดดเด่นให้กับลูกค้าบริษัทของเราพร้อมช่วยคุณเปลี่ยนร้านธรรมดาให้กลายเป็นสถานที่ที่ดึงดูดใจ ทั้งในเรื่องของความสวยงาม ความสะดวกสบาย และฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งาน เรามุ่งเน้นการออกแบบที่สะท้อนตัวตนของร้านคุณ ช่วยเพิ่มยอดขาย และสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าในทุกครั้งที่เข้ามาเยือน
ทำไมร้านอาหารเมื่อเปิดไปนานๆแล้วควรจะรีโนเวทกับ บริษัทรับออกแบบรีโนเวทร้านอาหาร
การรีโนเวทร้านอาหารเมื่อเปิดไปนานๆ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจยังคงแข่งขันได้ในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ต่อไปนี้คือเหตุผลหลักที่ควรพิจารณารีโนเวทร้านอาหาร:
1 ดึงดูดลูกค้าใหม่และรักษาฐานลูกค้าเดิม
บรรยากาศและการตกแต่งร้านเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของลูกค้า การรีโนเวทช่วยเพิ่มความสดใหม่ให้กับร้าน สร้างความน่าสนใจให้ลูกค้าใหม่อยากลองมาเยี่ยมชม และช่วยให้ลูกค้าเดิมยังคงรู้สึกประทับใจ
2 ปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์ปัจจุบัน
การออกแบบและการใช้งานพื้นที่ร้านที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์หรือเทรนด์ในปัจจุบัน เช่น การเพิ่มพื้นที่ถ่ายรูป (Instagram-worthy spots) หรือการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยให้ร้านยังคงมีความทันสมัย
3 เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่
หลังจากเปิดร้านไปสักระยะ การใช้งานพื้นที่อาจไม่ตอบโจทย์หรือมีปัญหาที่ต้องปรับปรุง เช่น โต๊ะและที่นั่งไม่พอสำหรับลูกค้าที่เพิ่มขึ้น หรือพื้นที่ครัวและจัดเก็บไม่เพียงพอ การรีโนเวทสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดข้อจำกัดเหล่านี้
4 เสริมสร้างความปลอดภัยและความสะดวกสบาย
อุปกรณ์หรือวัสดุที่ใช้ตกแต่งเมื่อใช้งานไปนานๆ อาจเสื่อมสภาพ ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัย เช่น ไฟฟ้า โครงสร้าง หรือเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่แข็งแรง การรีโนเวทช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบายของทั้งพนักงานและลูกค้า
5 ส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์
ร้านอาหารที่มีภาพลักษณ์ล้าสมัยอาจทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์ไม่มีการพัฒนา การปรับโฉมร้านใหม่ช่วยสร้างความรู้สึกว่าร้านมีความกระตือรือร้นและใส่ใจลูกค้า ส่งผลต่อความไว้วางใจและความจงรักภักดีต่อแบรนด์
การรีโนเวทร้านอาหารจึงไม่ใช่เพียงแค่การตกแต่งใหม่ แต่เป็นการลงทุนเพื่อสร้างความเติบโตในระยะยาว และช่วยให้ร้านยังคงเป็นที่หนึ่งในใจลูกค้า
ถ้าร้านเก่าและต้องการจะรีแบรนด์ใหม่การรีโนเวทคือสิ่งที่ควรทำ จริงไหม?
คำตอบคือ จริง! เพราะการรีโนเวทคือกุญแจสำคัญสำหรับการรีแบรนด์ร้านอาหาร เพราะการรีแบรนด์ไม่ได้หมายถึงแค่การเปลี่ยนโลโก้หรือเมนูใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นการปรับภาพลักษณ์ทั้งหมดของร้านให้สอดคล้องกับตัวตนใหม่ที่คุณต้องการนำเสนอ การรีโนเวทช่วยเสริมความสำเร็จของการรีแบรนด์ในหลายด้าน เช่น:
1. สร้างภาพลักษณ์ใหม่ที่โดดเด่น
การออกแบบและตกแต่งร้านใหม่สามารถสะท้อนแนวคิดและเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่ปรับปรุงใหม่ได้ เช่น ถ้าต้องการเปลี่ยนไปเป็นร้านสไตล์มินิมอลหรือร้านที่มีความอบอุ่นแบบธรรมชาติ การรีโนเวทช่วยสร้างบรรยากาศที่ตรงกับสิ่งที่คุณต้องการนำเสนอ
2. ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายใหม่
เมื่อเปลี่ยนแบรนด์ คุณอาจต้องการเจาะตลาดใหม่ที่กว้างขึ้นหรือเฉพาะเจาะจงมากขึ้น การรีโนเวทช่วยทำให้ร้านของคุณดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม เช่น การปรับร้านให้ดูทันสมัยและเป็นมิตรต่อคนรุ่นใหม่ หรือเพิ่มโซนถ่ายรูปที่สร้างแรงบันดาลใจให้ลูกค้าแชร์ลงโซเชียลมีเดีย
3. เพิ่มความน่าเชื่อถือในสายตาลูกค้า
การปรับปรุงร้านช่วยสร้างความประทับใจและทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุณจริงจังกับการพัฒนาแบรนด์ ลูกค้าเก่าจะรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นสิ่งใหม่ และลูกค้าใหม่จะมองว่าร้านของคุณมีความสดใหม่และน่าเชื่อถือ
4. รองรับการเปลี่ยนแปลงของเมนูหรือบริการใหม่
การรีโนเวทยังช่วยปรับพื้นที่ให้รองรับบริการหรือแนวทางการดำเนินงานที่เปลี่ยนไป เช่น การเพิ่มโซนบาร์เครื่องดื่ม หากร้านต้องการเปลี่ยนไปในแนวทางร้านอาหารกึ่งบาร์ หรือพื้นที่ครัวเปิดสำหรับโชว์การทำอาหาร
5. รีเซ็ตจุดเริ่มต้นใหม่
การรีแบรนด์คือการบอกลูกค้าว่า “นี่คือยุคใหม่ของเรา” การรีโนเวทร้านช่วยสื่อสารจุดเปลี่ยนนี้ได้อย่างชัดเจน ทั้งในแง่ของภาพลักษณ์และบรรยากาศที่เปลี่ยนไป
ดังนั้น หากคุณต้องการให้การรีแบรนด์ประสบความสำเร็จและสร้างความแตกต่าง การรีโนเวทเป็นขั้นตอนสำคัญที่ควรทำเพื่อช่วยให้ภาพลักษณ์ใหม่ของร้านส่งถึงใจลูกค้าอย่างแท้จริง
การคัดเลือกบริษัทออกแบบรีโนเวทมารีโนเวทให้ควรคำนึงถึงอะไรบ้าง
การคัดเลือกบริษัทออกแบบและรีโนเวทเพื่อเข้ามาปรับปรุงร้านอาหารหรือพื้นที่ของคุณเป็นขั้นตอนสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพและความสำเร็จของโครงการ ต่อไปนี้คือปัจจัยที่ควรคำนึงถึงเมื่อเลือกบริษัท
1. ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ
เลือกบริษัทที่มีประสบการณ์ในงานรีโนเวทร้านอาหารหรือประเภทธุรกิจที่คุณทำ การดูผลงานที่ผ่านมาหรือพอร์ตโฟลิโอจะช่วยให้คุณเห็นภาพว่าบริษัทนั้นมีความเข้าใจในความต้องการเฉพาะด้านของธุรกิจร้านอาหารหรือไม่
2. ความคิดสร้างสรรค์และความเข้าใจในแบรนด์
บริษัทที่ดีควรสามารถนำเสนอแนวคิดการออกแบบที่ตอบโจทย์ภาพลักษณ์ของแบรนด์และช่วยดึงดูดลูกค้าได้ พร้อมทั้งต้องเข้าใจถึงจุดแข็งของร้านและนำมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ
3. การให้คำปรึกษาและบริการที่ครบวงจร
บริษัทที่มีบริการครบวงจร เช่น การออกแบบ การก่อสร้าง การจัดการงบประมาณ และการเลือกวัสดุ จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและลดความยุ่งยากในการประสานงาน
4. การจัดการงบประมาณอย่างโปร่งใส
บริษัทที่ดีควรให้รายละเอียดค่าใช้จ่ายที่ชัดเจน ตั้งแต่การออกแบบ วัสดุ ไปจนถึงค่าก่อสร้าง เพื่อให้คุณสามารถบริหารงบประมาณได้อย่างเหมาะสม และป้องกันค่าใช้จ่ายแอบแฝง
5. ความน่าเชื่อถือและรีวิวจากลูกค้าเก่า
ค้นหาความคิดเห็นและรีวิวจากลูกค้าที่เคยใช้บริการบริษัทนั้นๆ เพื่อประเมินถึงคุณภาพของงาน ความตรงต่อเวลา และความรับผิดชอบ
6. ความสามารถในการแก้ปัญหา
ในงานรีโนเวทมักมีปัญหาหรืออุปสรรคที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เช่น โครงสร้างเก่าที่ต้องปรับปรุงเพิ่มเติม บริษัทที่มีประสบการณ์จะสามารถรับมือและแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
7. การสื่อสารและความเข้าใจในความต้องการของลูกค้า
บริษัทที่ดีควรมีความใส่ใจในการฟังความต้องการของคุณ และสามารถแนะนำแนวทางที่เหมาะสม รวมถึงสื่อสารให้คุณเข้าใจได้ทุกขั้นตอนของงาน
8. ระยะเวลาและความตรงต่อเวลา
ตรวจสอบว่าบริษัทมีการจัดการเวลาที่ดี และสามารถส่งมอบงานได้ตรงตามกำหนดที่ตกลง เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อการเปิดร้านหรือธุรกิจของคุณ
9. การรับประกันคุณภาพงาน
บริษัทที่ดีควรมีการรับประกันคุณภาพงาน เช่น การแก้ไขงานที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือบริการหลังการส่งมอบงาน
10. ความสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจของคุณ
เลือกบริษัทที่มีสไตล์การออกแบบและการทำงานที่สอดคล้องกับแนวทางของธุรกิจคุณ เพื่อให้การรีโนเวทสื่อสารภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
การพิจารณาปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกบริษัทออกแบบรีโนเวทที่เหมาะสมที่สุดและมั่นใจได้ว่าโครงการของคุณจะสำเร็จตามเป้าหมาย
การออกแบบเพื่อรีโนเวทใหม่กับร้านเดิมต่างกันกับออกแบบเพื่อสร้างใหม่อย่างไร
การออกแบบเพื่อรีโนเวทใหม่และการออกแบบเพื่อสร้างใหม่มีความแตกต่างในหลายด้าน เนื่องจากข้อจำกัดและเป้าหมายที่แตกต่างกันของแต่ละกระบวนการ ต่อไปนี้คือความแตกต่างหลัก
1. โครงสร้างที่มีอยู่เดิม
รีโนเวทใหม่
– ต้องคำนึงถึงโครงสร้างที่มีอยู่ เช่น เสา ผนัง พื้น หรือระบบไฟฟ้าและประปาที่ต้องใช้งานร่วมกับการออกแบบใหม่
– มักมีข้อจำกัดในเรื่องการปรับปรุง เช่น พื้นที่จำกัด หรือโครงสร้างที่ไม่สามารถรื้อถอนได้ทั้งหมด
สร้างใหม่
– สามารถเริ่มต้นออกแบบจากศูนย์ ทำให้ไม่มีข้อจำกัดด้านโครงสร้างหรือการใช้งานพื้นที่
– มีอิสระในการเลือกวัสดุและโครงสร้างที่เหมาะสมที่สุด
2. งบประมาณ
รีโนเวทใหม่
– มักมีค่าใช้จ่ายที่ประหยัดกว่า เนื่องจากไม่ต้องรื้อถอนหรือสร้างโครงสร้างใหม่ทั้งหมด
– แต่หากพบปัญหาแอบแฝง เช่น โครงสร้างเก่าเสื่อมสภาพ ค่าใช้จ่ายอาจเพิ่มขึ้น
สร้างใหม่
– ค่าใช้จ่ายสูงกว่าเพราะต้องสร้างตั้งแต่ฐานรากและโครงสร้างใหม่
– แต่สามารถควบคุมงบประมาณได้ง่ายกว่า เนื่องจากไม่มีปัญหาที่ต้องแก้ไขจากโครงสร้างเก่า
3. ข้อจำกัดของพื้นที่
รีโนเวทใหม่
– ต้องปรับปรุงและออกแบบภายใต้พื้นที่และรูปแบบเดิม เช่น การขยายพื้นที่อาจทำได้ยากหากโครงสร้างไม่เอื้ออำนวย
– การออกแบบต้องคำนึงถึงการใช้งานของระบบเดิม เช่น ท่อน้ำ ไฟฟ้า หรือเครื่องปรับอากาศ
สร้างใหม่
– มีอิสระในการจัดสรรพื้นที่และออกแบบให้ตอบโจทย์การใช้งานได้เต็มที่
4. ความยืดหยุ่นในการออกแบบ
รีโนเวทใหม่
– มีข้อจำกัดในเรื่องสไตล์และฟังก์ชันที่ต้องปรับให้เข้ากับสิ่งที่มีอยู่
– อาจต้องคงลักษณะบางอย่างของร้านเดิมไว้ เช่น โครงสร้างหลักหรือองค์ประกอบที่ไม่สามารถรื้อถอนได้
สร้างใหม่
– มีความยืดหยุ่นสูง สามารถออกแบบได้ตามแนวคิดที่ต้องการโดยไม่มีข้อจำกัด
5. ระยะเวลา
รีโนเวทใหม่
– มักใช้เวลาน้อยกว่า เพราะบางส่วนของโครงสร้างหรือพื้นที่สามารถใช้งานได้อยู่แล้ว
– ต้องมีการวางแผนที่ดีเพื่อหลีกเลี่ยงการหยุดชะงักของธุรกิจ
สร้างใหม่
– ใช้เวลามากกว่า เนื่องจากต้องสร้างทุกอย่างใหม่ตั้งแต่เริ่มต้น
6. ผลกระทบต่อธุรกิจ
รีโนเวทใหม่
– มักต้องทำงานในขณะที่ร้านยังเปิดให้บริการ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ
– การวางแผนการทำงานเป็นสิ่งสำคัญเพื่อลดผลกระทบต่อรายได้
สร้างใหม่
– ไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ เพราะเป็นการสร้างบนพื้นที่ใหม่
7. เป้าหมาย
รีโนเวทใหม่
– มักเน้นการปรับปรุงเพื่อแก้ปัญหา เพิ่มฟังก์ชัน หรือปรับภาพลักษณ์ให้ทันสมัย
– อาจเป็นการรีแบรนด์หรือปรับตัวให้เข้ากับตลาดปัจจุบัน
สร้างใหม่
– มุ่งเน้นการสร้างภาพลักษณ์หรือคอนเซ็ปต์ใหม่ทั้งหมด โดยไม่มีข้อจำกัดจากสิ่งที่มีอยู่เดิม
ทั้งสองแนวทางมีจุดเด่นและความเหมาะสมในบริบทที่แตกต่างกัน การเลือกว่าจะรีโนเวทหรือสร้างใหม่จึงขึ้นอยู่กับงบประมาณ ข้อจำกัดทางพื้นที่ และเป้าหมายของธุรกิจเป็นหลัก
หลักการออกแบบเพื่อรีโนเวทร้านอาหารควรคำนึงถึงหลักอะไรบ้างเพื่อให้งานออกมามีประสิทธิภาพอย่างสูงสุด
การออกแบบเพื่อรีโนเวทร้านอาหารให้มีประสิทธิภาพสูงสุดจำเป็นต้องคำนึงถึงหลักการสำคัญหลายด้านเพื่อให้ผลลัพธ์ตอบโจทย์ทั้งในแง่ของการใช้งาน การดึงดูดลูกค้า และความคุ้มค่าในระยะยาว หลักการเหล่านี้คือ
1. วิเคราะห์พื้นที่และโครงสร้างเดิม
– ตรวจสอบสภาพพื้นที่และโครงสร้างเดิมเพื่อประเมินสิ่งที่สามารถปรับปรุงหรือคงไว้ได้ และลดค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน
– ระบุจุดเด่นของพื้นที่ เช่น วิวหน้าต่าง หรือแสงธรรมชาติ เพื่อใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด
2. ความเข้าใจในกลุ่มเป้าหมาย
– ออกแบบร้านโดยคำนึงถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เช่น การจัดพื้นที่ที่เหมาะกับครอบครัว คนรุ่นใหม่ หรือคู่รัก
– ใช้สไตล์และบรรยากาศที่ดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เช่น มินิมอล โมเดิร์น หรือคลาสสิก
3. การจัดการพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ
– ออกแบบการจัดวางโต๊ะ เก้าอี้ และทางเดินให้เหมาะสม เพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับลูกค้าและพนักงาน
– ใช้พื้นที่อย่างชาญฉลาด เช่น การเพิ่มโต๊ะขนาดเล็กในมุมที่ไม่ได้ใช้งาน
4. การใช้งานและฟังก์ชันที่เหมาะสม
– วางแผนการจัดพื้นที่ครัว ห้องน้ำ และพื้นที่บริการให้สอดคล้องกับการทำงานของพนักงาน เพื่อลดการเดินทางที่ไม่จำเป็น
– เพิ่มจุดสั่งอาหาร บาร์ หรือจุดบริการที่สะดวกต่อการเข้าถึง
5. การสร้างบรรยากาศและอารมณ์ (Ambience Design)
– ใช้สี แสง และวัสดุที่สร้างบรรยากาศที่เหมาะสม เช่น โทนสีอบอุ่นสำหรับร้านอาหารสไตล์ครอบครัว หรือโทนเข้มทันสมัยสำหรับร้านอาหารกึ่งบาร์
– ออกแบบไฟตกแต่งเพื่อเพิ่มความโดดเด่นในพื้นที่ เช่น โคมไฟที่ดึงดูดสายตาหรือไฟแสงนุ่มที่ช่วยสร้างความผ่อนคลาย
6. การใช้วัสดุที่คุ้มค่าและเหมาะสม
– เลือกวัสดุที่ทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว เช่น พื้นผิวที่ทำความสะอาดง่าย หรือวัสดุที่กันน้ำและรอยขีดข่วน
– ใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อเพิ่มคุณค่าด้านภาพลักษณ์ของร้าน
7. การออกแบบที่สร้างความแตกต่าง
– เพิ่มองค์ประกอบที่สร้างความเป็นเอกลักษณ์ เช่น กำแพงศิลปะ จุดถ่ายรูป หรือโลโก้ที่โดดเด่น
– ใช้ธีมที่บ่งบอกตัวตนของร้าน เช่น ธีมวัฒนธรรม ธรรมชาติ หรือธีมเฉพาะกลุ่ม
8. การออกแบบให้รองรับการใช้งานเทคโนโลยี
– จัดโซนสำหรับลูกค้าที่ต้องการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น ที่ชาร์จไฟและ Wi-Fi
– ติดตั้งระบบ POS และหน้าจอสั่งอาหารที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ
9. การจัดการระบบระบายอากาศและกลิ่น
– วางระบบระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพ เพื่อลดกลิ่นอาหารในพื้นที่นั่งรับประทาน
– เพิ่มพื้นที่เปิดโล่งหรือการระบายอากาศธรรมชาติในกรณีที่เป็นไปได้
10. ความสอดคล้องกับงบประมาณ
– วางแผนงานออกแบบให้เหมาะสมกับงบประมาณที่กำหนด โดยไม่ลดคุณภาพของวัสดุหรือโครงสร้างที่สำคัญ
– จัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องปรับปรุง เช่น รีโนเวทพื้นที่หลักก่อน
11. การออกแบบให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
– เลือกใช้วัสดุรีไซเคิลหรือวัสดุที่ย่อยสลายได้ง่าย
– วางระบบจัดการขยะและประหยัดพลังงาน เช่น การติดตั้งหลอดไฟ LED หรือใช้แสงธรรมชาติ
12. การปฏิบัติตามข้อกำหนดและกฎหมาย
– ตรวจสอบว่าการออกแบบและรีโนเวทเป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมาย เช่น กฎระเบียบด้านสุขอนามัย โครงสร้าง หรือข้อบังคับด้านอัคคีภัย
– รับใบอนุญาตที่จำเป็นก่อนดำเนินการ
การคำนึงถึงหลักการเหล่านี้จะช่วยให้การรีโนเวทร้านอาหารออกมาอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความประทับใจให้ลูกค้า และส่งเสริมความสำเร็จของธุรกิจในระยะยาว
สไตล์การออกแบบร้านค้าในปัจจุบันมีความนิยมสไตล์ไหนบ้างที่ควรนำมาเป้นตัวอย่างในงานออกแบบ
ในปัจจุบัน สไตล์การออกแบบร้านค้ามีหลากหลายแนวที่ได้รับความนิยม ซึ่งตอบโจทย์ทั้งในด้านความสวยงาม การสร้างประสบการณ์ และการดึงดูดลูกค้า สไตล์ที่ควรนำมาเป็นตัวอย่างในงานออกแบบมีดังนี้
1. สไตล์มินิมอล (Minimal Style)
– ลักษณะเด่น เรียบง่าย สะอาดตา ใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น เน้นการใช้โทนสีขาว เทา น้ำตาล หรือเอิร์ธโทน
– เหมาะสำหรับ ร้านกาแฟ ร้านขนาดเล็ก หรือร้านที่ต้องการสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย
2. สไตล์ลอฟท์ (Loft Style)
– ลักษณะเด่น ใช้โครงสร้างเปลือย เช่น ผนังปูนเปลือย เหล็ก และไม้ เฟอร์นิเจอร์ดูดิบเท่
– เหมาะสำหรับ ร้านอาหารกึ่งบาร์ ร้านที่เน้นกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นหรือคนรุ่นใหม่
3. สไตล์โมเดิร์น (Modern Style)
– ลักษณะเด่น เน้นความทันสมัย ใช้เส้นสายที่เรียบง่าย วัสดุเช่นกระจก โลหะ หรือพื้นผิวที่มันวาว
– เหมาะสำหรับ ร้านเสื้อผ้า ร้านเทคโนโลยี หรือร้านที่ต้องการภาพลักษณ์หรูหรา
4. สไตล์อินดัสเทรียล (Industrial Style)
– ลักษณะเด่น ใช้วัสดุที่ดูดิบๆ เช่น โลหะ ไม้เก่า และท่อเหล็ก เน้นความแข็งแกร่งและเท่
– เหมาะสำหรับ ร้านกาแฟ บาร์ หรือร้านที่ต้องการสร้างความรู้สึกแปลกใหม่
5. สไตล์สแกนดิเนเวียน (Scandinavian Style)
– ลักษณะเด่น ใช้โทนสีสว่าง เฟอร์นิเจอร์ไม้ธรรมชาติ เน้นความเรียบง่ายแต่อบอุ่น
– เหมาะสำหรับ ร้านเสื้อผ้าเด็ก คาเฟ่ หรือร้านที่ต้องการสร้างความรู้สึกอบอุ่น
6. สไตล์ญี่ปุ่น (Japanese Style)
– ลักษณะเด่น เน้นความสงบและสมดุล ใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ไผ่ โคมกระดาษ และเฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดกะทัดรัด
– เหมาะสำหรับ ร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านขนมหวาน หรือร้านที่ต้องการบรรยากาศผ่อนคลาย
7. สไตล์เรโทรหรือวินเทจ (Retro/Vintage Style)
– ลักษณะเด่น ใช้ของตกแต่งที่มีความเก่าและคลาสสิก เช่น เฟอร์นิเจอร์ไม้เก่า เครื่องใช้สมัยโบราณ
– เหมาะสำหรับ ร้านเบเกอรี่ ร้านกาแฟ หรือร้านที่ต้องการความรู้สึกย้อนยุค
8. สไตล์ทรอปิคอล (Tropical Style)
– ลักษณะเด่น ใช้พืชสีเขียว วัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้และหวาย สร้างบรรยากาศที่สดชื่นและผ่อนคลาย
– เหมาะสำหรับ ร้านอาหารริมทะเล คาเฟ่ หรือร้านที่ต้องการความรู้สึกเหมือนพักผ่อนในรีสอร์ท
– ตัวอย่าง คาเฟ่ที่ตกแต่งด้วยต้นไม้ใหญ่และใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้หวาย
9. สไตล์บูทีค (Boutique Style)
– ลักษณะเด่น เน้นความหรูหราและรายละเอียดที่ประณีต เช่น โคมไฟระย้า ผ้าหรูหรา และสีทองหรือเงิน
– เหมาะสำหรับ ร้านเครื่องประดับ ร้านเสื้อผ้าแฟชั่น หรือร้านที่ต้องการภาพลักษณ์หรูหรา
10. สไตล์อาร์ตเดโค (Art Deco Style)
– ลักษณะเด่น เน้นความหรูหราและสัญลักษณ์ความอุดมสมบูรณ์ ใช้เส้นสายเรขาคณิตและวัสดุเช่นทองเหลืองและกระจก
– เหมาะสำหรับ ร้านอาหารระดับพรีเมียม ร้านขนมหรู หรือบาร์
11. สไตล์บาหลีหรือบีชเฮ้าส์ (Balinese/Beach House Style)
– ลักษณะเด่น ใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ หวาย และการตกแต่งที่มีความรู้สึกเหมือนชายทะเล
– เหมาะสำหรับ ร้านอาหารซีฟู้ดหรือร้านที่ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยว
การเลือกสไตล์ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมายและแนวคิดของแบรนด์ การผสมผสานสไตล์ที่แตกต่างอาจช่วยให้ร้านของคุณโดดเด่นและสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้าได้
บริษัทรับออกแบบรีโนเวทร้านอาหาร และไม่ว่าคุณจะเลือกสไตล์การออกแบบร้านค้าแบบใดสิ่งสำคัญที่สุดคือการทำให้ร้านของคุณสะท้อนเอกลักษณ์ของแบรนด์และตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้อย่างแท้จริง การออกแบบที่ดีไม่เพียงแค่เพิ่มความสวยงาม แต่ยังสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำและช่วยเสริมความสำเร็จให้กับธุรกิจในระยะยาว ให้ร้านของคุณไม่ใช่เพียงแค่สถานที่ แต่กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ลูกค้าต้องการกลับมาอีกครั้ง
>>รีโนเวทร้านข้าวหมกไก่สยาม คลิก
>>ผลงานออกแบบร้านอาหาร คลิก
“เราเป็นมากกว่าบริษัทรับออกแบบก่อสร้างและรีโนเวทตกแต่ง เพราะนอกจากเสนองานออกแบบที่มีคุณภาพให้แก่ท่านแล้ว เรายังให้ความรู้ในการก่อสร้างเบื้องต้นให้แก่ท่านด้วยด้วย เพราะความรู้ที่ถูกต้องนั้น จะช่วยให้ท่านรู้จริง รู้ทัน อันจะทำให้ท่านได้รับแต่สิ่งที่ดีที่ถูกต้องนั่นเอง” บริษัทเรารับออกแบบก่อสร้าง รีโนเวท และตกแต่งภายในอาคารทุกประเภทด้วยสถาปนิกและมัณฑนากรมืออาชีพ รวมถึงทีมช่างคุณภาพประสบการณ์มากกว่า20ปี โดยท่านสามารถส่งความต้องการมาหาเราได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
สนใจติดต่อ งานออกแบบตกแต่งภายในและรีโนเวทอาคาร