ออกแบบร้านยา 1 คูหา
“เราเป็นมากกว่าบริษัทออกแบบ เพราะนอกจากเสนองานออกแบบและตกแต่งแล้ว เรายังให้ความรู้ทางการตลาดควบคู่ไปด้วย เพราะมันคือสิ่งสำคัญสำหรับการเปิดร้านเพื่อธุรกิจ”

ออกแบบร้านยา 1 คูหา
ออกแบบร้านยา 1 คูหา | เปลี่ยนร้านยา 1 คูหาให้ทันสมัย
ออกแบบร้านยา 1 คูหา ♦️การออกแบบร้านขายยาในพื้นที่จำกัดอย่างขนาด 1 คูหานั้นไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการจัดวางสินค้าให้ครบถ้วนในพื้นที่จำกัดเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงความสะอาด ความเป็นระเบียบ ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือที่ลูกค้าคาดหวังจากร้านยา การสร้างบรรยากาศที่สว่าง โปร่ง และมีสัดส่วนที่ชัดเจน จะช่วยให้ร้านดูทันสมัย เข้าถึงง่าย และส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กับเภสัชกรหรือเจ้าของร้านได้อย่างเป็นมืออาชีพ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักแนวคิดและหลักการออกแบบร้านขายยา 1 คูหาให้ใช้สามารถใช้งานได้จริง พร้อมดูดี ที่จะสามารถสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้าผู้ที่มาใช้บริการได้ในทุกมิติ
.
ออกแบบร้านยา 1 คูหา | ร้านขายยาในอดีตกับปัจจุบัน 💊
ร้านขายยาในอดีตมักมีภาพจำเป็นร้านขนาดเล็ก เรียบง่าย มีชั้นวางยาแน่นขนัดอยู่หลังเคาน์เตอร์ ลูกค้าต้องสอบถามหรือให้เภสัชกรหยิบสินค้าให้เอง การตกแต่งร้านไม่ใช่ประเด็นสำคัญเท่าไหร่นัก เพราะสิ่งที่ลูกค้าต้องการคือความคุ้นเคย ความไว้ใจ และคำแนะนำจากคนขายที่มักเป็นเภสัชกรเจ้าของร้าน ความสัมพันธ์เชิงชุมชนและการบอกต่อแบบปากต่อปากคือหัวใจของการค้าขายในยุคนั้น
แต่ในขณะที่ร้านขายยาในปัจจุบันได้เปลี่ยนบทบาทไปมากจากเดิม จากแค่สถานที่ซื้อยากลายเป็น “ศูนย์สุขภาพขนาดย่อม” ที่ให้ทั้งคำปรึกษา บริการ และความประทับใจของลูกค้า การออกแบบร้านจึงต้องตอบโจทย์มากกว่าเดิม ทั้งในเรื่องของความสะอาด ความปลอดภัย การจัดพื้นที่ที่ให้ลูกค้าได้เดินเลือกสินค้าได้เอง และการสร้างบรรยากาศที่ดูทันสมัย เป็นมืออาชีพ โดยเฉพาะเมื่อต้องแข่งขันกับร้านแฟรนไชส์ขนาดใหญ่ในตลาด ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือจึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของลูกค้าโดยตรงในปัจจุบัน
.
ออกแบบร้านยา 1 คูหา | ข้อจำกัดด้านพื้นที่กับการออกแบบให้มีประสิทธิภาพ 🏥
เมื่อเทียบกับร้านขายยาขนาด 2 คูหาขึ้นไป ร้านขนาด 1 คูหามีข้อจำกัดหลักด้าน “พื้นที่ใช้งาน” ซึ่งส่งผลต่อทั้งการจัดวางสินค้า พื้นที่ให้คำปรึกษา และความสะดวกสบายของลูกค้า การจัดสรรพื้นที่ภายในต้องรอบคอบมาก เพราะต้องใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่าที่สุด โดยไม่ให้รู้สึกแคบหรืออึดอัดเกินไป ร้านขนาดเล็กอาจไม่มีพื้นที่สำหรับแยกโซนสินค้าอย่างชัดเจน เช่น โซนยาแผนปัจจุบัน อาหารเสริม หรือเวชสำอาง จึงต้องใช้การจัดวางแบบ “ผสมผสานแต่มีระบบ” เช่น การใช้ชั้นวางสูงถึงฝ้า หรือชั้นวางแบบเปิดโล่งเพื่อลดความอึดอัด
ข้อจำกัดอีกประการหนึ่งคือเรื่อง ภาพลักษณ์และความเป็นมืออาชีพ ร้าน 1 คูหาอาจมีความเสี่ยงที่จะดูเป็น “ร้านยาแบบเก่า” หากไม่มีการออกแบบที่ทันสมัยและใส่ใจในรายละเอียด เช่น แสงไฟ ป้ายสื่อสารภายในร้าน หรือการออกแบบเคาน์เตอร์จ่ายยาให้ดูโปร่งและน่าเชื่อถือ ดังนั้น การออกแบบร้านขายยา 1 คูหาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ต้องเน้น “ความเป็นระเบียบ ความโปร่ง และการจัดหมวดหมู่ที่ชัดเจน” รวมถึงออกแบบให้มีพื้นที่สำหรับให้คำปรึกษาส่วนตัว แม้จะเล็ก แต่ก็ต้องดูเป็นมืออาชีพและไว้ใจได้ครับ

.
ร้านขายยา 1 คูหา ควรออกแบบอย่างไรให้เป็นมืออาชีพ มีความโดดเด่น และน่าเข้า ☑️
การออกแบบร้านขายยา 1 คูหาให้ดูมืออาชีพและโดดเด่นน่าเข้า ต้องเริ่มต้นจาก “ความเรียบง่ายและเป็นระเบียบ” เป็นพื้นฐานสำคัญ เพราะร้านยาไม่ได้ขายเพียงสินค้า แต่ขาย “ความไว้ใจ” และ “ภาพลักษณ์ด้านสุขภาพ” พื้นที่ภายในควรออกแบบให้โปร่ง โล่ง และสว่าง โดยเลือกใช้โทนสีสะอาด เช่น ขาว เขียวอ่อน หรือฟ้าอ่อน ที่ช่วยให้รู้สึกปลอดภัยและผ่อนคลาย การจัดวางชั้นยาไม่ควรสูงหรือแน่นจนเกินไป ควรเลือกชั้นวางที่บางแต่แข็งแรง และเปิดโล่ง เพื่อให้ลูกค้ามองเห็นสินค้าได้ง่ายและร้านดูกว้างขึ้น
ส่วนองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้ร้านดู “มืออาชีพ” คือเคาน์เตอร์จ่ายยา ซึ่งควรวางในตำแหน่งที่ลูกค้าเห็นชัดเจน มีพื้นที่สำหรับการให้คำปรึกษาอย่างเป็นส่วนตัว และต้องมีการติดป้ายแสดงชื่อเภสัชกรพร้อมเลขใบอนุญาตอย่างชัดเจน เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ ควรมีระบบจัดหมวดหมู่สินค้าที่ชัดเจน เช่น ป้าย “ยาแก้ไข”, “อาหารเสริม”, “เวชสำอาง” พร้อมด้วยการใช้แสงไฟเฉพาะจุด (Spotlight) เน้นสินค้าเด่น ๆ และมุมแนะนำของร้าน เพื่อดึงดูดความสนใจลูกค้าให้หยุดดูและอยากเดินเข้าไปเลือกสินค้า
และแม้จะเป็นร้านขนาดเล็ก แต่สามารถสร้างความ “โดดเด่น” ได้ด้วยการเลือกวัสดุและดีไซน์ที่แตกต่าง เช่น การใช้ไม้สีอ่อนผสมสีขาวเพื่อเพิ่มความอบอุ่น หรือการแทรกงานตกแต่งแนวธรรมชาติ เช่น ต้นไม้เล็ก ๆ หรือภาพกราฟิกเกี่ยวกับสุขภาพ เพื่อทำให้บรรยากาศไม่แข็งกระด้างเกินไป ถ้ามีพื้นที่หน้าร้าน ควรใช้ประโยชน์ให้คุ้มด้วยการจัดแสดงสินค้าแนะนำหรือโปรโมชั่นหน้าร้านในกรอบกระจกใส เพื่อดึงดูดความสนใจของคนที่เดินผ่าน และสร้างความรู้สึกว่า “ร้านนี้ดูดี ทันสมัย และไว้ใจได้”
.
5 หลักการออกแบบร้านขายยา 1 คูหาให้โดดเด่น น่าเข้า และดูเป็นมืออาชีพ ☑️
1. ใช้โทนสีสะอาด สว่าง สบายตา สีเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ส่งผลต่อความรู้สึกของลูกค้าเมื่อก้าวเข้ามาในร้าน ร้านขายยา 1 คูหาควรเลือกใช้โทนสีที่ดู “สะอาดและปลอดภัย” เช่น สีขาว เขียวอ่อน ฟ้าอ่อน หรือสีเบจ เพราะเป็นสีที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและการดูแลร่างกายโดยตรง สีอ่อนยังช่วยให้ร้านดูโปร่ง โล่ง และกว้างกว่าความเป็นจริง ซึ่งเหมาะมากกับร้านที่มีพื้นที่จำกัด
นอกจากนี้ การใช้สีสม่ำเสมอทั่วทั้งร้าน (ทั้งผนัง เฟอร์นิเจอร์ และชั้นวาง) จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดูเรียบร้อยและมีความเป็นมืออาชีพ หลีกเลี่ยงการใช้สีฉูดฉาดหรือลวดลายเยอะ เพราะจะทำให้ร้านดูรก ไม่น่าไว้วางใจ และลดความรู้สึกปลอดภัยของลูกค้าในใจแบบไม่รู้ตัว

.
2. จัดเลย์เอาต์ให้ไหลลื่น แบ่งหมวดหมู่ชัดเจน การจัดพื้นที่ภายในร้านขายยา 1 คูหาควรเน้นความ “เป็นระบบและเข้าถึงง่าย” โดยแบ่งโซนสินค้าให้ชัดเจน เช่น โซนยาแผนปัจจุบัน โซนอุปกรณ์การแพทย์ โซนอาหารเสริม หรือเวชสำอาง เพื่อให้ลูกค้าสามารถเดินเลือกสินค้าเองได้โดยไม่ต้องถามพนักงานทุกครั้ง และช่วยให้การค้นหาสินค้ารวดเร็วขึ้นแม้มีพื้นที่จำกัด
การจัดเลย์เอาต์ที่ดีควรคำนึงถึงการไหลของการเดิน เช่น วางสินค้ายอดนิยมไว้ด้านหน้า โซนรอรับยาไว้ใกล้เคาน์เตอร์ และแยกพื้นที่ให้คำปรึกษาอย่างสงบไว้มุมใน การเดินภายในร้านควร “วนได้รอบเดียวครบทุกสินค้า” ไม่ใช่ต้องวกกลับไปกลับมา เพราะจะทำให้ลูกค้าเบื่อหรือรู้สึกว่าไม่เป็นระบบ
.
3. ออกแบบเคาน์เตอร์จ่ายยาให้เป็นจุดศูนย์กลางของความน่าเชื่อถือ เคาน์เตอร์จ่ายยาไม่ใช่แค่ที่รับเงินหรือจ่ายสินค้า แต่เป็น “ศูนย์กลางของความเชื่อมั่น” ระหว่างร้านกับลูกค้า ควรออกแบบให้ดูสะอาด สว่าง โล่ง และมองเห็นได้ตั้งแต่เดินเข้าร้าน ตำแหน่งที่เหมาะสมคือมุมข้างในที่มองเห็นจากทางเข้า โดยไม่บังทางเดิน และไม่ปะปนกับชั้นสินค้าอื่น ๆ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกถึงความเป็นสัดส่วนของบริการ
การออกแบบเคาน์เตอร์ควรมีป้ายชื่อเภสัชกร ใบอนุญาต และช่องให้คำปรึกษาอย่างเป็นส่วนตัว เพิ่มพื้นที่วางสินค้าเฉพาะจุด เช่น สินค้าแนะนำ หรือกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการรักษา การใช้ไฟเฉพาะจุด (spotlight) ด้านหลังเคาน์เตอร์ หรือป้าย backlit ที่เน้นโลโก้ร้านก็ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและดูเป็นมืออาชีพขึ้นได้มากครับ
.
4. ใช้ชั้นวางแบบเปิดโล่งและวัสดุโปร่งเบาเพื่อลดความอึดอัด ร้านขนาด 1 คูหามีข้อจำกัดด้านความกว้าง ดังนั้นชั้นวางสินค้าควรเลือกแบบ “บาง โปร่ง โล่ง” และจัดวางให้ลูกค้าหยิบจับได้ง่าย ชั้นวางแบบเปิดด้านหลังหรือใช้วัสดุโปร่งใส เช่น กระจกหรืออะคริลิก จะช่วยให้ร้านดูกว้าง ไม่ปิดทึบ ไม่บังแสง และทำให้สินค้าดูเด่นมากขึ้น
หลีกเลี่ยงการวางชั้นแบบติดเพดานหรือวางสินค้าสูงเกินหัว เพราะจะทำให้ร้านดูแคบและลูกค้ารู้สึกไม่ปลอดภัย ชั้นวางควรมีระยะห่างระหว่างกันพอสมควร เพื่อให้ลูกค้าเดินสวนกันได้ และเลือกใช้โทนสีของเฟอร์นิเจอร์ให้ไปในทิศทางเดียวกับผนังร้าน เพื่อความกลมกลืนและดูเรียบร้อยสบายตา
.
5. สร้างจุดเด่นหน้าร้านให้หยุดสายตาและเชิญชวนให้เข้า ในร้านขนาดเล็ก การสร้าง “จุดเด่นหน้าร้าน” เป็นหัวใจสำคัญ เพราะเป็นสิ่งแรกที่ลูกค้าเห็นก่อนตัดสินใจจะเดินเข้าร้านหรือไม่ ควรออกแบบป้ายร้านให้ชัดเจน ใช้ฟอนต์อ่านง่าย สีสบายตา และมีแสงไฟส่องตอนกลางคืน หน้าร้านควรเป็นกระจกใสเพื่อให้มองเห็นภายในร้าน และรู้สึกเปิดกว้าง เป็นมิตร ไม่ปิดทึบ
บริเวณหน้าร้านอาจเพิ่ม “มุมโปรโมชั่น” หรือ “ชั้นแนะนำสินค้า” ที่จัดวางอย่างเป็นระเบียบ พร้อมป้ายกราฟิกสื่อสารที่ดูน่าเชื่อถือ เช่น “ให้คำปรึกษาโดยเภสัชกร”, “สินค้าขายดีประจำเดือน” หรือ “เวชภัณฑ์พร้อมให้บริการ” สิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้ช่วยสร้างความมั่นใจ และทำให้ร้านเล็ก ๆ ดูมีความพร้อมระดับมืออาชีพได้อย่างดี
.
🖐️สิ่งที่ไม่ควรทำในการออกแบบร้านขายยา 1 คูหา
❌ หลีกเลี่ยงการใช้สีฉูดฉาดหรือสีที่ขัดกับภาพลักษณ์สุขภาพ ถึงแม้ว่าสีจะช่วยดึงดูดความสนใจ แต่การใช้สีที่แรงเกินไป เช่น แดงสด เหลืองนีออน หรือส้มสะท้อนแสง อาจทำให้ร้านขายยาดูไม่น่าไว้วางใจ และลดความรู้สึก “ปลอดภัย” ที่ลูกค้าคาดหวังเมื่อเข้าร้านขายยา สีที่รบกวนสายตายังทำให้ลูกค้าเกิดความเครียดโดยไม่รู้ตัว และอาจรู้สึกว่าเป็นร้านค้าทั่วไป ไม่ใช่สถานบริการสุขภาพ
**ควรหลีกเลี่ยงการใช้หลายสีตัดกันในพื้นที่แคบอย่างร้าน 1 คูหา เพราะจะทำให้ร้านดูรกและแคบลงทันที การเลือกใช้สีโทนอ่อน สะอาด และกลมกลืนกัน เช่น ขาว เขียวอ่อน หรือสีเอิร์ธโทน จะช่วยส่งเสริมความรู้สึกสบายตา และสร้างความเป็นมืออาชีพได้มากกว่า
.
❌ อย่าจัดชั้นวางแน่นเกินไปจนลูกค้าเดินไม่สะดวก ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในร้านขายยาขนาดเล็กคือการพยายาม “ใส่ของให้มากที่สุด” โดยการตั้งชั้นวางแบบติดกันจนไม่มีพื้นที่ให้ลูกค้าเดินสวนกันได้ ซึ่งนอกจากจะดูอึดอัดแล้ว ยังเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ เช่น การเดินชนสินค้า หรือสินค้าตกจากชั้นวาง ซึ่งทำให้ร้านดูไม่ปลอดภัยและไม่น่าเข้าซ้ำ
การจัดชั้นวางที่ดีต้องคำนึงถึงระยะห่างในการเดิน และการเข้าถึงสินค้าได้ง่าย โดยเฉพาะลูกค้าที่มีผู้สูงอายุหรือคนเจ็บป่วยที่อาจเดินไม่คล่อง การให้ความสำคัญกับ “พื้นที่โล่งระหว่างชั้น” แทนที่จะเน้นปริมาณสินค้า จะช่วยยกระดับภาพลักษณ์ร้านให้ดูโปร่ง น่าเข้า และใส่ใจลูกค้า
.
❌ ห้ามละเลยการจัดแสงหากแสงน้อยทำให้ร้านดูไม่น่าเชื่อถือ ร้านขายยาที่แสงสลัวหรือมืดเกินไป จะส่งผลเสียต่อความน่าเชื่อถือโดยตรง เพราะทำให้ร้านดูเก่า หม่นหมอง และไม่สะอาด ซึ่งขัดกับภาพลักษณ์ของธุรกิจด้านสุขภาพ ลูกค้าอาจรู้สึกไม่มั่นใจในคุณภาพสินค้า หรือแม้แต่ในความเป็นมืออาชีพของเภสัชกร
ร้านขนาดเล็กควรเน้นใช้แสงไฟ LED สีขาวหรือ warm white ที่ให้ความสว่างทั่วถึง โดยเฉพาะบริเวณชั้นวางสินค้าและเคาน์เตอร์รับยา ควรหลีกเลี่ยงการใช้แสงเหลืองจัด หรือแสงสีแปลก ๆ เช่น แดงหรือน้ำเงิน เพราะอาจทำให้ลูกค้าเห็นสีของยา/สินค้าเพี้ยนไป และไม่สามารถตัดสินใจเลือกซื้อได้อย่างมั่นใจ
.
❌ อย่าใช้วัสดุราคาถูกจนร้านดูไม่เป็นมืออาชีพ การประหยัดต้นทุนเป็นสิ่งสำคัญ แต่การใช้วัสดุที่ดูราคาถูกเกินไป เช่น ไม้อัดบางที่ผุเร็ว สีลอกง่าย หรือชั้นพลาสติกบาง ๆ ที่โยกเยก จะทำให้ร้านดูไม่มีมาตรฐาน และลดทอนความน่าเชื่อถือของสินค้าที่คุณขาย แม้จะเป็นยาแท้หรือของดี ลูกค้าก็อาจตั้งคำถามกับคุณภาพเพียงเพราะ “บรรยากาศร้านดูไม่ปลอดภัย”
คุณไม่จำเป็นต้องใช้วัสดุหรูหราราคาแพง แต่ควรเลือกใช้วัสดุที่ “ดูสะอาด เรียบร้อย แข็งแรง และมีคุณภาพพอสมควร” เช่น เมลามีนไม้ลายธรรมชาติ, เหล็กพ่นสีฝุ่น, หรือตู้กระจกที่ขอบเรียบปลอดภัย จะช่วยให้ร้านดูน่าเชื่อถือและดูแลรักษาได้ง่ายในระยะยาว
.
❌ ไม่ควรละเลยจุดประชาสัมพันธ์หรือการให้คำแนะนำลูกค้า ร้านขายยา 1 คูหาหลายแห่งอาจโฟกัสกับการขายสินค้าอย่างเดียว โดยลืมจัดพื้นที่หรือองค์ประกอบสำหรับ “การให้คำปรึกษา” เช่น ไม่มีจุดนั่งรอ ไม่มีโปสเตอร์ความรู้สุขภาพ หรือไม่มีระบบให้คำแนะนำอย่างเป็นส่วนตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ร้านดูห่างไกลจากความเป็น “มืออาชีพในสายสุขภาพ”
การให้คำปรึกษาคือสิ่งที่ร้านขายยาขนาดเล็กสามารถ “แข่งกับร้านแฟรนไชส์ใหญ่” ได้อย่างดี เพราะลูกค้ารู้สึกถึงความใส่ใจและเข้าถึงได้ง่าย คุณควรจัดมุมเล็ก ๆ สำหรับให้คำแนะนำอย่างสงบ อาจมีเก้าอี้นั่ง ป้ายให้ความรู้ หรือจอแสดงคำแนะนำด้านสุขภาพ สิ่งเหล่านี้จะเปลี่ยน “ร้านเล็ก” ให้กลายเป็นร้านที่ลูกค้าไว้วางใจในระยะยาวได้ทันที
.
💊 ตัวอย่างงานตกแต่งร้านขายยา
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น เราได้นำตัวอย่างงานออกแบบและตกแต่งร้านขายยาที่มีความโดดเด่น สวยงาม และตอบโจทย์การใช้งานจริงมาให้ผู้อ่านได้ชมกัน ทั้งในแง่ของการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกโทนสี วัสดุ เฟอร์นิเจอร์ รวมถึงการจัดแสงและมุมต่าง ๆ ภายในร้าน ซึ่งล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของร้านขายยาให้ดูทันสมัย เป็นมืออาชีพ และน่าเชื่อถือ
ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงเริ่มต้นวางแผนเปิดร้าน หรือกำลังมองหาแรงบันดาลใจในการรีโนเวทร้านเดิม หวังว่าภาพตัวอย่างต่อไปนี้จะช่วยจุดประกายไอเดียและเป็นแนวทางในการออกแบบร้านขายยา 1 คูหาให้ตอบโจทย์ทั้งในด้านฟังก์ชัน ความสวยงาม และประสบการณ์ของลูกค้าได้อย่างลงตัว










.
แม้ร้านขายยาจะมีพื้นที่เพียง 1 คูหา แต่หากออกแบบอย่างมีแนวคิดที่ดี ใส่ใจในรายละเอียด และวางแผนการใช้งานอย่างเป็นระบบ ก็สามารถเปลี่ยนร้านเล็กๆ ให้กลายเป็นพื้นที่ที่ดูสวย โปร่ง น่าเชื่อถือ และเป็นมืออาชีพได้ไม่ยาก การเลือกโทนสี การจัดแสง เฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสม รวมถึงการจัดวางพื้นที่ที่อกแบบอย่างชาญฉลาด ล้วนเป็นปัจจัยที่ช่วยให้ร้านขายยา 1 คูหามีเอกลักษณ์ โดดเด่น และตอบโจทย์การใช้งานได้ไม่แพ้กับร้านขนาดใหญ่
ออกแบบร้านยา 1 คูหา เพราะการมีร้านขายยาที่ดูดี มีความเป็นมืออาชีพ ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าของคุณ แต่ยังเป็นการยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์ของคุณได้อย่างดี โดยหากคุณกำลังมองหาแนวทางการออกแบบร้านขายยาในพื้นที่จำกัด หรืออยากปรับโฉมร้านให้โดดเด่นและน่าเข้า อย่าลังเลที่จะทักมาปรึกษาเรา ทีมของเรายินดีให้คำแนะนำและออกแบบให้เหมาะกับงบประมาณ สไตล์ และตัวตนของคุณ เพื่อเปลี่ยนร้านขายยาธรรมดา…ให้กลายเป็นร้านที่ “น่าเชื่อใจตั้งแต่แรกเห็น”
.
>>ภาพ 3D ออกแบบร้านค้าสำคัญอย่างไร? คลิก
“เราเป็นมากกว่าบริษัทออกแบบ เพราะนอกจากเสนองานออกแบบและตกแต่งแล้ว เรายังให้ความรู้ทางการตลาดควบคู่ไปด้วย เพราะมันคือสิ่งสำคัญสำหรับการเปิดร้านเพื่อธุรกิจ” บริษัทเรารับออกแบบตกแต่งภายในร้านอาหารทุกประเภทด้วยมัณฑนากรมืออาชีพและทีมช่างคุณภาพประสบการณ์มากกว่า20ปี โดยท่านสามารถส่งความต้องการมาหาเราได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
สนใจติดต่อ งานออกแบบตกแต่งภายในและรีโนเวทอาคาร